รู้ตัวเเล้ว ชายหัวร้อนพังของที่สนามบิน ที่เเท้เคยดำรงตำเเหน่งเป็นตร. เผยเเจ้งความเเล้ว

จากกรณีที่ชายหญิงคู่หนึ่งเดินทางมาสนามบินช้า ทำให้ตกเครื่อง ก่อนจะมีปากเสียง โวยวายลั่นสนามบิน โดยระบุว่า มาช้าไปเพียง 30 วินาทีก็ปิดประตูไม่ให้ขึ้น เป็นเหตุทำให้โมโหเเละทำลายข้างจนได้รับความเสียหาย เเละมาทราบภายหลังว่าผู้ที่ก่อเหตุเป็นอดีตนายตำรวจ เคยดำรงตำเเหน่งในสังกัด สภ.นามน ภ.จว.กาฬสินธุ์ เเละลาออกจากราชการเเล้ว

ล่าสุดวันที่ 9 สิงหาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถาม พ.ต.ท. กนธีร์ สุทธิภูล รองผู้กำกับด่านตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานกรุงเทพ (ดอนเมือง) เผยว่า เหตุการณ์ในคลิปของวันที่ 8 สิงหาคมนั้น เกิดที่อาคาร 2 สำหรับผู้โดยสารภายในประเทศ หลังชายในคลิปได้ทำลายทรัพย์สินก็ได้เดินไปจะขึ้นแท็กซี่กลับ แต่เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัวเอาไว้ได้

ต่อมาทางสายการบินแอร์เอเชีย ซึ่งได้รับความเสียหาย ได้ไปแจ้งความไว้ที่ สน.ดอนเมือง ซึ่งทางผู้ก่อเหตุก็ได้เดินทางตามมา และได้ขอโทษ โดยยอมรับว่าที่ทำไปเพราะตนเองโมโหหัวร้อน เนื่องจากมาถึงปากทางเข้าแล้วแต่พนักงานไม่ให้ขึ้นเครื่อง ยอมรับว่า เป็นฝ่ายมาถึงช้ากว่ากำหนดจริง และได้ชดใช้ค่าเสียหายให้กับสายการบินแอร์เอเชียเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งทางสายการบินก็ไม่ได้ติดใจเอาความ

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น ทางฝ่ายสื่อสารองค์กร สายการบินไทยแอร์เอเชีย ได้ชี้เเจงว่าเที่ยวบินดังกล่าวคือ FD3258 ดอนเมือง-ขอนเเก่น วันที่ 8 ส.ค. 2563 โดยมีกำหนดออกเดินทางจากท่าอากาศยานดอนเมือง เวลา 18.00 น.ถึงท่าอากาศยานขอนเเก่น เวลา 19.15 น.

เมื่อถึงเวลาเรียกขึ้นเครื่อง(boarding time) ตามที่ระบุในบัตรโดยสาร คือ เวลา 17.20 น. สายการบินได้เรียกผู้โดยสารทุกคนขึ้นเครื่องตามขั้นตอนปกติ ซึ่งพบว่ายังมีผู้โดยสารไม่มารายงานตัวหน้าประตูขึ้นเครื่องจึงประกาศเรียกโดยระบุชื่อเป็นระยะ เเละเมื่อผู้โดยสารไม่เเสดงตัวก่อนเวลาเดินทาง จึงจำเป็นต้องปฏิเสธการเดินทาง และให้บริการตามปกติ จนเกิดเหตุการณ์ตามคลิปที่ปรากฏ

“ตามปกติ สายการบินจะมีการเขียนแจ้งเตือนและแนะนำในบัตรโดยสารว่าผู้โดยสารจะต้องมาถึงก่อนเวลาเครื่องออก เช่นต้องมาถึงก่อน 40 นาที ก่อนเครื่องออก และประตูเครื่องจะปิดก่อนเครื่องออก20นาที แต่กรณีนี้พบว่า เครื่องมีกำหนดออก 18:00น แต่ ผู้โดยสารมาถึง เวลา 17:56น ซึ่งเป็นเวลาที่ประตูขึ้นเครื่องปิดแล้ว จึงไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นเครื่องบินจึงโมโหทำลายข้าวของ”