ตูบโดนทิ้งให้อยู่ตัวเดียว พร้อมกระดาษโน๊ตสะเทือนใจ แต่โชคดีได้บ้านใหม่ที่มีความสุขกว่าเดิม

เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อชายคนหนึ่งได้ไปเจอเจ้าตูบถูกมัดกับต้นไม้ พร้อมมีโน๊ตบอกถึงสาเหตุที่เจ้าของเก่าต้องทิ้งน้องแบบนี้ แต่เขาเชื่อว่ามันมีวิธีที่ดีกว่านี้ และการเหตุผลในโน๊ตแผ่นนั้นเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น

Michael Delp ผู้กำกับศูนย์พักพิงสัตว์ใน Johnson Country รัฐอินดีแอนา เขาได้ไปเจอกับเจ้า Roadie โดยเจ้าตูบถูกผูกติดไว้กับต้นไม้ต้นหนึ่ง ที่คอมีขวดพลาสติดกับปลอกคอห้อยอยู่ เมื่อดูดีๆก็พบว่าในนั้นมีกระดาษโน๊ตอยู่ด้วย

ใจความในโน๊ตมากจากเจ้าของเก่าของเจ้า Roadie นั่นเอง ข้อความบอกเอาไว้ประมาณว่า เจ้าตูบตัวนี้ชื่อ Rodie เป็นน้องหมาสายพันธุ์ครึ่งเยอรมันเชพเพิร์ด ครึ่งออสเตรเลียเชพเพิร์ด เหตุที่เจ้าของไม่สามารถเลี้ยงเจ้า Roadie ได้อีกต่อไปเพราะว่าเขาตกงานเพราะสถานการณ์โควิด และกำลังจะไม่มีบ้านอยู่ และเขียนบอกรายละเอียดต่างๆเกี่ยวเจ้า Roadie ไว้

Michael บอกว่าเขาพยายามทำความเข้าใจในเหตุผลของเจ้าของมัน แต่ที่จริงมันมีวิธีที่ดีกว่าและปลอดภัยกว่าการที่ต้องปล่อยเจ้าตูบเอาไว้แบบนี้ เพราะเสี่ยงมากที่มันจะโดนรถชนและอาจได้รับอันตรายจากหมาป่าก็ได้

หากเจ้าของของมันรักสัตว์จริงๆ เขาควรเอาไปฝากไว้ที่ศุนย์พักพิงสัตว์โดยตรง เพราะว่าพวกเขาพร้อมที่จะให้การช่วยเหลืออยู่แล้ว ดังนั้น Michael จึงบอกว่า เขาสะเทือนใจมากหลังอ่านโน๊ตนี้ และคิดว่ามันเป็นข้ออ้างในการทิ้งเจ้าตูบมากกว่า การที่เขาเขียนโน๊ตก็เพื่อให้เกิดความเห็นอกเห็นใจก็แค่นั้น

แต่อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนชีวิตของเจ้า Roadie จะสดใสกว่าที่เคย เพราะหลังจากที่มันได้รับการช่วยเหลือ ก็มีครอบครัวกว่า 20 ครอบครัวอยากจะรับมันไปเลี้ยงดู และหนึ่งในนั้นก็เป็นครอบครัวของ Jeremy Pell รองหัวหน้านายอำเภอและเป็นหัวหน้าหน่วยดับเพลิง เขากำลังมองหาเจ้าตูบที่มีความสามารถเพื่อทำภารกิจคู่กับเขา

Jeremy ทำการทดสอบเจ้า Roadie เล็กๆน้อยๆ ซึ่งมันก็สามารถผ่านแบบทดสอบได้อย่างง่ายดาย และเขาคิดว่าเจ้า Roadie นี่แหละคือสิ่งที่เขาตามหา ในที่สุดเขาก็รับมันไปเลี้ยง และเริ่มทำการฝึกมันให้เป็นสุนัขช่วยเหลือร่วมกับเขา และดูเหมือยว่าเจ้าตูบจะมีความสุขมากๆด้วย

ยังไงก็ตามขอแสดงความยินดีกับชีวิตใหม่ที่สดใสนี้ด้วย และขอให้ทุกคนอย่าทอดทิ้งน้องเอาไว้ตัวคนเดียว เพราะเราไม่รู้เลยว่าน้องจะต้องเจอกับอันตรายในรูปแบบไหน ทางที่ดีเอาไปฝากไว้ที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์โดยตรงน่าจะดีกว่า

ที่มา : boredpanda