หนุ่มจีนเผยความลับ เผลอกลืนนกหวีดลงคอมานาน 20 ปี ไม่กล้าบอกพ่อ เพราะกลัวโดนดุ

เชื่อว่าทุกคนน่าเคยมีวีรกรรมในวัยเด็กที่ทำแล้วเสี่ยงอันตรายแต่ไม่กล้าบอกพ่อแม่มาจนถึงตอนนี้เพราะกลัวโดนดุใช่มั้ยละ? อย่างเรื่องราวของหนุ่มคนนี้ที่เขาเผลอกลืนนกหวีดมาตั้งแต่สมัยเด็กแต่ด้วยความที่ดกลัวจะโดนดุเลยเก็บเป็นความลับมานานกว่า 20 ปี! เตือนก่อนเลยว่าการทำแบบนี้มันอันตรายมาก ๆ…

หนุ่มแซ่ Lin จากเมืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนได้มาเผยเรื่องราวที่เขาเก็บเป็นความลับมานานกว่า 20 ว่า เมื่อ่ตอนที่เขาอายุ 6 ขวบ เขาเผลอกลืนนกหวีดที่ติดอยู่กับของเล่นลงคอ โดยที่เขาไม่ได้ตั้งใจ!

แต่ Lin กลับเก็บเรื่องนี้เอาไว้กับตัวเอง เขาไม่ยอมบอกพ่อหรือบอกให้ใครรับรู้เลย เพราะกลัวว่าจะโดนดุ เขาปล่อยให้ในร่างกายของเขามีนกหวีดอยู่อย่างนั้นมานาน 20 ปี จนเขาลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าร่างกายของเชขามีสิ่งแปลกปลอมอยู่

Lin ป่วยเป็นโรปอดบวม เขาเข้าออกโรงพยาบาลอยู่หลายครั้ง จนล่าสุดเขานึกขึ้นได้ว่าสาเหตุที่เขารักษาไม่หายสักที อาจจะเป็นเพราะว่าเขามีนกหวีดอยู่ในร่างกายนั่นเอง เขาจึงได้เล่าเรื่องราวนี้ให้แพทย์ฟัง จากการตรวจร่างกายก็ไม่พบว่านกหวีดที่เขากลืนลงไปนั้นอยู่ส่วนไหนของร่างกาย

จากนั้น Lin จึงเปลี่ยนโรงพยาบาล เมื่อแพทย์ทำการเอ็กซเรย์อย่างละเอียดจึงพบว่านกหวีดมันไปติดอยู่ที่หลอดลมของเขานั่นเอง การจะนำออกมานั้นไม่สามารถเอาออกจากทางช่องปากได้ ต้องใช้วิธีการผ่าตัด ซึ่งเป็นวิธีที่อันตรายต้องใช้ความระมัดระวังสูงมาก

แพทย์เผยว่านกหวีดที่ Lin กลืนลงไปมีสีดำคล้ายกับหลอดลม ทำให้มันยากมาก แต่สุดท้ายการผ่าตัดก็ผ่านไปได้ด้วยดี สามารถเอานกหวีดที่ว่านั้นออกมาได้ โดยมันมันความยาวประมาณ 2 เซนติเมตร

Lin ปลอดภัยหลังจากได้รับการผ่าตัด เขาสามารถหายได้สะดวกขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก นอกจากนั้นเขายังบอกว่ารู้สึกเสียใจมาก ๆ ที่ปิดบังเรื่องราวกับพ่อและแม่

หลังจากที่เรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ออกทางสื่ออนไลน์ชาวเน็ตก็เข้ามาให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่การเลี้ยงดูของพ่อแม่ว่า ไม่ควรเข้มงวดกับลูกมากเกินไปเพราะมันทำให้เด็ก ๆ ไม่กล่าจะบอกความจริง กลัววพ่าจะถูกดุหรือถูกลงโทษนั่นเอง และการที่มีวัตถุแปลกปลอมในร่างกานเป็นเวลานาน เป็นเรื่องที่อันตรายมาก ดังนั้นพ่อแม่ควรจะมีวิธีการสื่อสารกับลูก ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก

ที่มา : 163, globaltimes