ประวัติดอกพีโอนีหรือดอกโบตั๋น

ดอกพีโอนีหรือดอกโบตั๋นเป็นดอกไม้ที่สำคัญที่สุดในวัฒนธรรมชาวจีน เพราะเป็นสัญลักษณ์ของประเทศจีนนั่นเอง และแน่นอนว่าดอกพีโอนีนั้นถูกเพาะสายพันธ์มาจากประเทศจีนและญี่ปุ่นมาร่วมหลายร้อยปี ซึ่งความหมายของมันคือความร่ำรวย ความมั่งคั่ง เกียรติยศ และ ความงดงาม แต่ในทางกลับกันทางฝั่งตะวันตกก็มีความเชื่อเกี่ยวกับดอกพีโอนีต่างออกไป เพราะตำนวนกรีกเล่าว่าดอกพีโอนีนั้นใช้เป็นที่กำบังกายของบรรดานิมพ์ทั้งหลายที่เปลือยกายอยู่ ดังนั้นความหมายของดอกพีโอนีกับความเชื่อของคนตะวันตกจะหมายถึงความอับอายและความโชคร้ายนั่นเองค่ะ อีกความหมายหนึ่งของดอกพีโอนีก็สื่อถึงความรักของคนสองคนที่ไม่เคยพบเจอกันมาก่อน

ลักษณะทั่วไป

โบตั๋น เป็นไม้ดอกสกุล Paeonia ซึ่งเป็นสกุลเดียว ในวงศ์ Paeoniaceae เป็นพืชพื้นเมืองของเอเชีย, ตอนใต้ของยุโรป และตะวันตกของอเมริกาเหนือ ในอดีต โบตั๋นมักถูกจัดอยู่ในวงศ์ Ranunculaceae โดยพืชสกุลโบตั๋นส่วนใหญ่เป็นไม้ล้มลุกหลายปี สูงประมาณ 0.5–1.5 เมตร บางชนิดเป็นพุ่ม ลำต้นมีเนื้อไม้ สูง 1.5-3 เมตร ลักษณะของใบเป็นใบประกอบ มีแฉกลึก ดอกใหญ่ และมักมีกลิ่นหอม มีหลายสี ตั้งแต่ แดง บานเย็น เหลือง จนถึงขาว มักออกดอกในช่วงต้นฤดูร้อน

สรรพคุณ

แรกเริ่มเดิมทีนั้น ดอกโบตั๋นยังรู้จักกันไม่แพร่หลายนัก แค่ชาวจีนรู้กันว่าสามารถนำมาทำยาได้ ทั้งนี้ รากของดอกโบตั๋น สามารถใช้ทำเป็นยารักษาโรคระดูผิดปกติในผู้หญิง โรคหืด โรคชักได้ และสารสกัดจากดอกโบตั๋นยังมีสรรพคุณในการช่วยบำรุงดูแลให้ผิวชุ่มชื่น เปล่งปลั่ง และเมื่อนำมาผสมผสานสารสกัดจากมะละกอ และผลเบอร์รี่จากแคริบเบียน จึงออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวรอบดวงตา Eye Off Shade เจลใสที่ช่วยแก้ไขปัญหารอยคล้ำรอบดวงตา ช่วยให้ผิวรอบดวงตาคุณสดชื่น เปล่งปลั่ง

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก วิกิพีเดีย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *