คุม 3 ผู้ต้องหา คดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บอกหมดจุดไหนวางแผน จุดไหนซุ่มดักอุ้มเหยื่อ พบวางแผนที่บ้านบรรยิน แต่เจ้าตัวยังยืนกรานปฏิเสธ เตรียมฝากขัง 6 ข้อหาหนัก
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหา 6 คน ในคดีร่วมกันอุ้มฆ่า นายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ อายุ 70 ปี พี่ชาย น.ส.พนิดา ศกุนตะประเสริฐ ผู้พิพากษาอาวุโส ศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อให้ยกฟ้องคดีการโอนหุ้นมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง ซึ่งมี พ.ต.ท. บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ เป็นจำเลย ซึ่ง พ.ต.ท. บรรยิน บอกยังงง ๆ และมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเองนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด (25 กุมภาพันธ์ 2563) พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมาน คุมตัว นายประชาวิทย์ ศรีทองสุข, นายชาติชาย เมณฑ์กุล และนายณรงค์ศักดิ์ ป้อมจันทร์ ผู้ต้องหา 3 ใน 6 คน เดินทางไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุ
โดยจุดแรกบริเวณบ้านที่มีชื่อของ พ.ต.ท. บรรยิน เป็นผู้ครอบครอง ตั้งอยู่ภายในซอยรัชดาภิเษก 33 หลังด่านเก็บเงินค่าทางด่วนย่านรัชดาฯ ซึ่งนายณรงค์ศักดิ์ อ้างว่า จุดนี้ใช้เป็นที่พัก วางแผน และจุดรวมตัวก่อนลงมือก่อเหตุ
จุดต่อมา จุดรวมพลหน้าศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ซอยเจริญกรุง 63 ผู้ต้องหามาดักรออุ้มตัวนายวีรชัยขึ้นรถ เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยนายณรงค์ศักดิ์ (เสื้อเทา) รับว่าเป็นคนล็อกตัวขึ้นรถ ส่วนนายชาติชาย (เสื้อแดง) เป็นคนดันตัวขึ้นรถ ขณะที่นายประชาวิทย์ (เสื้อฟ้า) เป็นคนล็อกตัวขณะอยู่บนรถ ก่อนจะรุมทำร้ายร่างกายระหว่างทาง
โดยหลังจากการทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ไปสอบปากคำเพิ่มเติม ขณะที่ผู้ต้องหาอีก 3 คนที่เหลือ ได้แก่ พ.ต.ท. บรรยิน ตั้งภากรณ์, นายมานัส ทับนิล และนายธงชัย วจีสัจจะ หรือ สจ.อ๊อด ยังคงยืนกรานปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการสอบสวนแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่จะคุมตัว 6 ผู้ต้องหา ไปฝากขังศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ในช่วงบ่ายวันนี้ (25 กุมภาพันธ์) ใน 6 ความผิด ได้แก่
1. ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
2. ซ่องโจร
3. ร่วมกันทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียเสรีภาพ
4. ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังเพื่อเรียกค่าไถ่ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียเสรีภาพ
5. ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
6. ร่วมกันข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยใช้กำลังประทุษร้ายฯ