นพ.อาทิตย์ เล่าสุอังกูร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชเลยราชนครินทร์ เปิดเผยว่า สถานการณ์ฆ่าตัวตายในพื้นที่จังหวัดเลย มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยพบว่า อัตราฆ่าตัวตายเดือน ต.ค.-ธ.ค. 62 อยู่ที่การฆ่าตัวตาย 5 คนต่อแสนประชากร เพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 6.9 คนต่อแสนประชากร ซึ่งเกินค่าเฉลี่ยที่ 6.3 คนต่อแสนประชากรเล็กน้อย ซึ่งเกิดจากสาเหตุในสถานการณ์ปัจจุบัน ได้แก่ ความเครียด ความวิตกกังวล การตกงานขาดรายได้ ปัญหาการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต ความเครียดจากการถูกกักตัว ปัญหาความเครียดจากการห้ามขายสุรา ความกดดันจากสังคมรอบข้าง
สำหรับประชาชนทั่วไปรวมถึงชุมชนและสังคม เพราะฉะนั้นสิ่งที่อยากให้ทุกคนได้ตระหนักไว้และอยากจะแนะนำ ได้แก่
1. ต้องติดตามข่าวสารที่ถูกต้อง ข่าวที่แฉมาโดยที่ยังไม่ได้กลั่นกรองก็ต้องพึ่งตระหนักไว้ว่าอาจจะไม่ใช่ความจริง
2. การคิดในแง่บวก เมื่อเจอข่าวสารใดๆก็ตามให้เราคิดในแง่บวกไว้ก่อน และไม่ควรตีตราคนในสังคมถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้ติดเชื้อ หรือเป็นผู้ติดเชื้อก็ตาม ซึ่งผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่มักมีอาการน้อย มีส่วนน้อยที่มีอาการหนัก ซึ่งกลุ่มอาการหนักก็จะได้รับการรักษาอย่างดีในโรงพยาบาล นอกจากนี้การช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ ก็จะเป็นสิ่งที่ดีในสังคม จึงอยากให้พวกเราได้ฟันฝ่าตรงนี้ไปด้วยกัน โดยสโลแกนของกรมสุขภาพจิตคือ อึด ฮึด สู้ ซึ่งจะช่วยให้พวกเราผ่านตรงนี้ไปได้
นพ.อาทิตย์ กล่าวต่ออีกว่า ข้อแนะนำสำหรับกลุ่มคนที่มีปัญหาสุขภาพจิตและจิตเวช สำหรับในกลุ่มที่มีความเครียดสูง วิตกกังวล มีภาวะซึมเศร้า ภาวะเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย และในกลุ่มคนทำงานจะมีภาวะ burnout หรือภาวะหมดไฟได้ จึงอยากจะฝากข้อแนะนำไว้ว่า
1. อยากให้พวกเราทุกคนดูแลตัวเองก่อนโดยการคิดบวก มองในแง่ดี บางอย่างที่เป็นดังใจ ก็ให้ let ‘to หรือช่างมันไปก่อนให้ตนเองมีความเข้มแข็งฝ่าวิกฤตไปด้วยกัน
2. ใช้หลัก 3 ส เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ส ที่หนึ่งคือ สอดส่อง มองหา หมายถึง การสำรวจตนเอง และสำรวจคนรอบข้าง โดยสอกส่องมองหาว่าเขามีความเครียดไหม มีภาวะซึมเศร้าหรือภาวะอยากฆ่าตัวตายหรือไม่ เพื่อที่เราจะได้เข้าไปดูแลเขา ส ที่สองคือ ใส่ใจรับฟัง หมายถึง การเข้าไปถามไถ่รับฟัง ให้กำลังใจเขา และถ้าเขาต้องการความช่วยเหลือเราก็จะได้ยื่นมือเข้าไปช่วย ส ที่สามคือ ส่งต่อ เชื่อมโยง หมายถึง เมื่อพบว่าคนรอบข้างต้องการความช่วยเหลือเราก็สามารถส่งต่อเขาให้ได้รับการช่วยเหลือ เช่น มาที่สถานพยาบาล หรือแม่แต่ตัวเราเองถ้ามีอาการที่ไม่ไหวก็ส่งต่อตัวเราเองมาเพื่อขอความช่วยเหลือได้ ซึ่งช่องทางการให้ความช่วยเหลือมีได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสถานพยาบาล แอฟพลิเคชั่นต่างๆ เช่น แอฟสบายใจ เป็นไลน์แอด ของโรงพยาบาลจิตเวช รายการทีวีบ้านพลังใจ เบอร์โทรฮอตไลน์สายด่วน ของกรมสุขภาพจิต
สำหรับประชาชน โทรได้ที่เบอร์ 1323 ตลอด24ชั่วโมง และสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข สามารถโทรเข้ามาที่เบอร์ฮอตไลน์พิเศษสำหรับบุคลากรกลุ่มนี้โดยเฉพาะ ที่เบอร์ด้านล่างนี้ สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง
ที่มา ข่าวสดออนไลน์