วันที่ 17 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีสมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความระบุว่า “วันนี้หนูเจอคนลำบาก…หนูได้รับข้อมูลจากร้านข้าวว่า…ลุงแกจะกลับโคราชแต่ไม่มีรถ…ลุงแกตอนแรกทำงานก่อสร้าง พอตกจากนั่งร้านก่อสร้าง ลูกพี่ก็ปล่อยแกทิ้ง แกนั่งอยู่ตรงที่รอรถหลายวันแล้วค่ะ หนูได้แต่ช่วยซื้อข้าวให้แกเฉยๆ และให้เงินติดตัวไว้จำนวนหนึ่ง…” จึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ริมถนนสาย กบินทร์บุรี-นครราชสีมา ฝั่งขาเข้า ต.กบินทร์บุรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
เมื่อไปถึงพบชายยืนถือไม้เท้าอยู่ในศาลาที่พักผู้โดยสาร สอบถามทราบว่าชื่อนายพร (นามสมมติ) อายุ 54 ปี พร้อมเปิดเผยเรื่องราวตัวเองว่า มารับจ้างทำงานกับผู้รับเหมาชื่อ จิตร รับเหมาทำซุ้มประตูโบสถ์อยู่ที่วัดท่าข่อย ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี มาทำกับคนในหมู่บ้าน 4 คน แต่กลับบ้านกันหมดแล้ว เพราะเถ้าแก่ไม่จ่ายค่าแรง ยังเหลือตนที่กำลังรอกลับบ้าน แต่เถ้าแก่หนีกลับสระแก้วแล้ว จึงหอบกระเป๋าเสื้อผ้า หิ้วลังใส่ตู้เชื่อมแบบสะพานใส่กล่องออกจากวัดกลับบ้าน
ต่อมา นายวัลลภ ประวัติวงศ์ นายอำเภอกบินทร์บุรี ซึ่งได้ทราบข่าวก็เดินทางมาพบนายพร พร้อมสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยนายพร บอกว่า ตกนั่งร้านที่ทำงาน ส่วนนายจ้างหนีกลับ ไม่จ่ายค่าแรง นายอำเภอกบินทร์บุรี จึงประสานผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ให้ไปตรวจสอบว่ามีผู้รับเหมาทำงานที่วัดฯจริงหรือไม่ และให้รายงานโดยด่วน แล้วยังมอบเงินช่วยเหลือนายพรเป็นค่ารถเดินทางกลับบ้าน 700 บาท ซึ่งนายพร ต้องการเดินทางไปที่บ้านน้ำฉ่า ต.หาดนางแก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ผู้สื่อข่าวจึงขับรถพาไปส่งจนถึงจุดหมายปลายทาง
จากนั้นเดินทางไป ที่วัดท่าข่อย พบว่ามีการสร้างซุ้มประตูโบสถ์จริง และพบ ผู้รับเหมา เปิดเผยเรื่องที่เกิดขึ้นว่า เรื่องที่นายพร พูดนั้นไม่เป็นความจริง ไม่รู้ทำไมนายพรถึงโกหกนายอำเภอและผู้สื่อข่าว ตนทราบข่าวจากผู้ใหญ่บ้านแล้ว ขอบอกเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทุกคนทราบข้อเท็จจริงว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา นายพรมาขอทำงานด้วย ตนทำงานรับเหมาก่อสร้างทำซุ้มประตูโบสถ์วัดท่าข่อย ร่วมกับลูกน้อง 2 คน
“วันนั้นนายพรขึ้นนั่งร้านกับลูกน้อง แล้วปรากฎว่าไม้พาดนั่งร้านหักทำให้ร่วงตกนั่งร้านสูง 1.30 ม. ทำให้ส้นเท้าขวาเคล็ดบวม ผมก็ให้พักผ่อนหาน้ำมันมาทาหาข้าวให้กิน โดยสั่งให้นายพรพัก ยังไม่ต้องทำงาน รอให้หายแล้วค่อยทำงานต่อ ก่อนผมจะออกไปธุระแล้วกลับมาช่วงเย็น ก่อนไปผมยังเติมเงินมือถือให้ด้วย รู้สึกไม่สบายใจที่บอกว่าผมลอยแพลูกน้องแล้วหนีกลับบ้าน ไม่เป็นความจริง”
ที่มา ข่าวสดออนไลน์