วันที่ 18 พ.ค. ที่กระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รับหนังสือข้อเสนอแนวทางการลงโทษผู้กระทำผิดทางเพศจาก นางสาวพัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ นางสาวกานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ ส.ส.กรุงเทพมหานคร นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ ส.ส.จังหวัดสุโขทัย พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญเร่งผลักดันแก้ปัญหาข่มขืนและ นายฐนันดร์ศักดิ์ บวรนันทกุล ตัวแทนกลุ่มนักวิชาการด้านอาชญาวิทยา
นางสาวพัชรินทร์ กล่าวว่า จากปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศที่เกิดขึ้นกับเด็กนักเรียน โดยครูและบุคลากรทางการศึกษาปรากฏขึ้นตลอดมาในช่วงระยะเวลาหลายปี เด็กนักเรียนหญิงถูกกระทำด้วยพฤติการณ์ที่ร้ายแรง ทั้งข่มขืน และลวนลาม จนประชาชนเกิดความวิตกกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ปัญหาเหล่านี้ต้องได้รับการแก้ไขโดยด่วน
ดังนั้นจึงเดินทางมาเพื่อเสนอแนวทาง คือ คุ้มครองพยาน ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์และจิตแพทย์ ไม่ให้ถูกล่วงละเมิด ด้วยการนำเสนอภาพ ข่าว หรือข้อมูลใด ๆ ที่สามารถเชื่อมโยงข้อเท็จจริงไปถึงตัวผู้เสียหาย อันจะทำให้เกิดความอับอาย เสียชื่อเสียง การคุ้มครองพยาน ควรนำมาใช้อย่างเคร่งครัด
“เนื่องจากผู้เสียหายเป็นพยานบุคคลที่สำคัญในคดี การค้นหาความจริงในคดีที่มีผู้รู้เห็นเหตุการณ์เพียงตัวผู้เสียหายและผู้กระทำผิด จึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญและกระทำด้วยความระมัดระวัง เพื่อความน่าเชื่อถือของพยานหลักฐานในชั้นศาล” นางสาวพัชรินทร์กล่าว
ด้าน นางสาวกานต์กนิษฐ์ กล่าวว่า อยากให้มีการเยียวยาฟื้นฟูผู้เสียหายให้ได้รับการชดเชย สนับสนุนเงินทุนในการศึกษาหรือประกอบอาชีพเพื่อสามารถกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติ และผู้เสียหายต้องสามารถเข้าถึงกองทุนยุติธรรมได้โดยง่าย เพื่อให้การเยียวยาเป็นไปโดยเร็วจึงจะเป็นการเยียวยาอย่างแท้จริง
ส่วน นายฐนันดร์ศักดิ์ กล่าวว่า อยากให้มีระบบติดตามผู้ต้องขังคดีทางเพศหลังการปล่อย โดยการนำระบบลงทะเบียนผู้กระทำผิดคดีทางเพศมาใช้ในประเทศไทย ซึ่งเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพและใช้ได้ในหลายประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และมาเลเซีย เป็นต้น
นายฐนันดร์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังอยากให้การลงโทษผู้กระทำผิดในลักษณะนี้มีโทษ แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน เช่น การฉีดยาทำให้อวัยวะเพศฝ่อ ไม่ตื่นตัว เพื่อลดความต้องการทางเพศ, การรับประทานยาและฮอร์โมนที่มีผลทำให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ, การมีโทษจำคุกและห้ามประกอบอาชีพ, จำคุกตลอดชีวิตไม่มีการลดโทษ เป็นต้น
ขณะที่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ที่บริเวณชั้น 6 กระทรวงยุติธรรมเป็นที่ทำการของศูนย์เฉพาะกิจเฝ้าระวังความปลอดภัยของประชาชน ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อติดตามผู้ต้องขังคดีรุนแรง เช่น ฆ่าต่อเนื่อง ฆ่าข่มขืน ซึ่งเวลานี้กำลังพัฒนาระบบ รวมถึงจัดทำกฎหมาย ในการติดตามตัวกลุ่มคนเหล่านี้
ส่วนประเด็นที่ยื่นข้อเสนอมา เช่น การคุ้มครองพยาน การเยียวยา การช่วยเหลือทางกฎหมาย ทางกระทรวงดำเนินการอย่างต่อเนื่องและเป็นเรื่องสำคัญที่ตนให้ความสำคัญเพราะเป็นเรื่องการช่วยเหลือประชาชน แต่ในข้อเสนอแนวทางการลงโทษที่เป็นประเด็นใหม่ก็ขอศึกษาก่อนว่าจะดำเนินการได้หรือไม่
ที่มา ข่าวสดออนไลน์