จากกรณีนายปัง สงครามรอด อายุ 62 ปี กระเป๋ารถเมล์ที่กรุงเทพฯ เดินทางกลับมาบ้านในต.หัวถนน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เพื่อมาทำใบขับขี่ เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา แล้วได้กักตัวที่บ้านของน้องชายตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 เป็นเวลา 14 วัน แต่ช่วงกักตัวได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบ เนื่องจากเพิ่งเดินทางมาจากต่างจังหวัด โดยญาติให้กู้ภัยนำศพไปฌาปนกิจที่วัดทันที โดยไม่ประกอบพิธีใดๆ
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 24 พ.ค. น.ส.เพชรรัตน์ ภูมาศ นายอำเภอนางรอง พร้อมด้วยนายชาลี แจ้งรัมย์ ปลัดอำเภอ หัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง นายชัชวาล บุญครอง ปลัดอำเภอ นายสมนึก ปรีชาพูด กำนันตำบลหัวถนนและผู้ใหญ่บ้าน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง
จากการตรวจสอบพบว่านายปัง ได้เดินทางมาจากกรุงเทพฯ พร้อมกับนายแป้น สงครามรอด น้องชาย โดยน้องชายมีอาชีพขับรถเมล์รับจ้างและผู้ตายเป็นกระเป๋ารถเมล์ เดินทางกลับมาบ้าน เพื่อมาทำใบขับขี่ เมื่อวันที่ 18 พ.ค. และกักตัวอยู่ที่บ้านของนายอุดร สงครามรอด น้องชายอีกคน และได้รับการดูแลปฏิบัติตนตามเงื่อนไขการกักตัวโดยปกติ ไม่มีอาการของผู้ป่วย
แต่นายปัง ปกติเป็นคนติดสุราและดื่มสุราเป็นประจำ น้องชายของผู้ตายให้ข้อมูลว่าพี่ชายที่เสียชีวิต มีอาการติดสุรา และคาดว่าการที่พี่ชายเสียชีวิตในครั้งนี้น่าจะมาจากการหยุดดื่มสุราในช่วงมากักตัว
ส่วนการจัดการศพ เนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจนและอยู่ในช่วงระยะกักตัว เลยให้กู้ภัยช่วยเหลือจัดการศพ ส่วนญาติพี่น้องจะได้ร่วมกันทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้พี่ชายในโอกาสต่อไป
ขณะที่น.ส.บุญญาพร มากชุมแสง ผู้ใหญ่บ้านดอนยาว เล่าว่า ช่วงเช้าหลังจากที่ทราบว่ามีผู้เสียชีวิต ซึ่งอยู่ในช่วงกักตัว จึงแจ้งให้กำนันและผู้นำชุมชนอีกหลายท่าน รวมถึงแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยและหมอเข้ามาตรวจพิสูจน์ ก่อนลงความเห็นว่าผู้เสียชีวิตเกิดจากอาการขาดสุรา ทำให้เสียชีวิต บวกกับญาติไม่ติดใจในการเสียชีวิต
ที่มา ข่าวสดออนไลน์