หนุ่มว่ายน้ำข้ามคลองไม่พ้น จมหายต่อหน้าต่อตาเพื่อน ชาวบ้านเชื่อ เป็นอาถรรพ์

วันที่ 26 พ.ค. พ.ต.ท.ชุมพล ด้วงคง สารวัตร(สอบสวน) สภ.ปะเหลียน รับแจ้งเหตุมีคนจมน้ำเสียชีวิต บริเวณลำคลองปะเหลียน ม.3 บ้านบ่อถ่าน ต.ท่าพญา จ.ตรัง หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างภักดี เขตย่านตาขาว สมาคมกู้ชีพร่วมใจ และหน่วยกู้ภัยทางทะเล จ.ตรัง กว่า 25 ราย

ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านนับร้อยมายืนมุงดูเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ช่วยกันดำน้ำงมตามหา โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนจะพบเป็นศพ นายจักรพงษ์ ผ่อนยิ่ง อายุ 39 ปี สภาพสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีแดง และกางเกงยีนส์ขายาว บริเวณหน้าท้องมีรอยสักคล้ายรูปปลา 2 ตัว บริเวณแขนซ้ายและขวามีรอยสักรูปดอกไม้ จมน้ำเสียชีวิตกลางคลองลึกประมาณ 5 เมตร เจ้าหน้าที่จึงนำศพส่งโรงพยาบาลปะเหลียน

จากการสอบถาม นายสามัญ มาลยารม อายุ 65 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ผู้ตายจะเดินข้ามไปมาเป็นประจำ ซึ่งผู้ตายจะมาหาเพื่อนที่ดื่มสุราด้วยกันอีกฝั่งหนึ่ง ก่อนเกิดเหตุได้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เพื่อนบ้านขับมาส่งผู้ตายบริเวณตรงจุดจมน้ำดังกล่าว ซึ่งมีชาวบ้านมาออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน

นายสามัญ กล่าวต่อว่า ระหว่างนั้นผู้ตายเดินลงบันไดริมตลิ่งอีกฝั่งหนึ่ง ได้นำผักไห่ 1 มัด ที่ถือมาบอกว่าจะให้ตน แต่ตนไม่เอา หลังจากนั้น ผู้ตายจึงเดินลงไปทางบันไดริมตลิ่ง แล้วเดินลงไปในน้ำ ขนาดคลองกว้าง 15 เมตร ลึก 3-4 เมตร แล้วว่ายน้ำข้ามไป เมื่อถึงช่วงกลางคลองซึ่งอยู่ห่างจากตลิ่งประมาณ 5 เมตร ปรากฏว่าผู้ตายได้จมหายลงไปใต้น้ำ หลังจากนั้น ก็โผล่หัวขึ้นมาให้เห็นแล้วก็จมหายไปในน้ำต่อหน้าต่อตาประมาณ 2 นาที

“ผมไม่เห็นผู้ตายไปขึ้นฝั่ง จะว่ายน้ำลงไปช่วยก็ไม่กล้า เพียงแต่บอกเพื่อนบ้านที่มาออกกำลังกายไปช่วย แต่ก็ไม่มีใครกล้าลง จึงเชื่อว่าผู้ตายคงจะเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ย่านตาขาว และหน่วยกู้ภัยช่วยกันค้นหาใช้เวลา 2 ชั่วโมงก่อนพบศพ” นายสามัญ กล่าว

ด้าน นางปัญญา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี กล่าวว่า ตนเป็นคนที่อาศัยอยู่ตรงนี้มาแต่เดิม ซึ่งมีคนเสียชีวิตมาหลายรายแล้ว เมื่อก่อนเป็นคลองที่มีต้นไผ่ขึ้นสองฟากฝั่งคลอง เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาได้มีโครงการขุดลอกคลองและทำเขื่อนกั้นตลิ่งสองฝากฝั่งคลอง

“ชาวบ้านร่ำลือกันว่า ที่ตรงนี้มีอาถรรพ์ ก่อนหน้านี้มีคนจมน้ำตายมาแล้วถึง 3 ศพ และศพนี้เป็นรายที่ 4 ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นตัวตายตัวแทนกัน หากไม่มีใครตายวิญญาณของคนก่อนจะวนเวียนไม่ได้ไปไหน เชื่อจะต้องมีคนมาตายแทนตามความเชื่อของชาวบ้านในพื้นที่” นางปัญญา กล่าว

ที่มา ข่าวสดออนไลน์