ดับคู่คารถ ผัวเจ็บเข่าให้เมียขับรถเเทน เสียหลักชนต้นไม้ รถพังยับ

วันที่ 11 มิถุนายน 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวต สภ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ได้รับเเจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 พิษณุโลก ว่ามีอุบัติเหตุรถยนต์ชนกับต้นไม้ริมถนนสายพิษณุโลก-นครสววรค์ มีผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายในรถ 2 ราย จึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน

ที่เกิดเหตุพบรถเก๋งฮอนด้า รุ่นซีวิค สีควันบุหรี่ ชนอัดอยู่กับต้นคูนขนาดใหญ่ที่อยู่ริมถนน สภาพรถพังยับเยิน เครื่องยนต์หลุดกระเด็นออกจากตัวรถ มีผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายในรถ 2 คน โดยผู้หญิงอยู่บริเวณที่นั่งคนขับ สภาพคาดเข็มขัดนิรภัย ข้างๆเป็นร่างของผู้ชายซึ่งคาดว่าไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยเอนมาทับ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างนำศพออกมาจากซากรถ เพื่อทำการชันสูตร

ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นายภาณุ สุวิเชียร อายุ 38 ปี เเละ นางสาววิชุตา สุวิเชียร อายุ 33 ปี เป็นชาวพิษณุโลก ทั้งสองมีบาดเเผลฉกรรจ์ที่ใบหน้า คอหักทั้งคู่ นอกจากนี้ พบว่านายภาณุใส่เฝือกไว้ที่ขาซ้ายตั้งเเต่เข่าลงมา

สอบสวนทราบว่า นางสาววิชุตา รับราชการครูอยู่ที่โรงเรียนจ่าการบุญ ส่วนนายภาณุ ทำงานอยู่ที่บริษัท CPF ประเทศไทย จำกัด มหาชน โรงงานผลิตอาหารสัตว์บกพิษณุโลก ก่อนเกิดเหตุ นางสาววิชุตา ขับรถออกไปรับนายภาณุที่กำลังเลิกงาน เนื่องจากนายภาณุเพิ่งเข้ารับการผ่าตัดที่กระดูกหัวเข้าข้างซ้าย ทำให้ขับรถเองไม่ได้ ก่อนเกิดเหตุเดินทางไปรับลูกชายเเละลูกสาวที่ฝากมารดาของนางสาววิชุตา อยู่ที่จังหวัดพิจิตร เเต่ขณะกำลังเดินทางเกิดอุบัติเหตุ รถเสียหลักตกถนนชนต้นไม้อย่างเเรง ทำให้เสียชีวิตในรถทั้งคู่

นายคนึง แก้วมณี อยู่หมู่บ้านวังเป็ด เล่าว่า ขณะที่กำลังฉีดพ่นยาอยู่ในนาข้าวริมถนน ได้ยินเสียงเบรกรถดังมาก เมื่อหันมามองก็เห็นรถคันนี้เกิดอุบัติเหตุ จึงรีบวิ่งมาดู ยังเห็นว่านายภาณุยังมีชีวิตอยู่ เเละมีพลเมืองดีอีก 2 คนหยุดรถลงมาดูเหตุการณ์ จึงรีบโทรเเจ้งเจ้าหน้าที่ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาถึงก็พบว่านายภาณุได้เสียชีวิตลงเเล้ว

เบื้องต้น ตำรวจสันนิษฐานว่า อาจมีสัตว์เลื้อยคลานตัดหน้ารถ ทำให้เบรกกะทันหันแล้วควบคุมรถไม่ได้ หรืออาจเกิดอาการหลับในรถจะลงเกาะกลางถนนจึงเบรกแล้วเสียหลักทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ซึ่งตำรวจจะสืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง เเละได้ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ส่งให้แพทย์ชันสูตรที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ก่อนติดต่อญาติให้มารับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลต่อไป