หนุ่มใหญ่สงขลา ทิ้งชีวิตเมือง ครองรักกับสาวมันนินาน 30 ปี พร้อมช่วยดูเเลผืนป่า

เรื่องราวความรักต่างเผ่าพันธุ์ระหว่างชายหนุ่มซึ่งเป็นคนเมืองเเละภรรยาเป็นชาวมันนิ หรือเผ่าซาไก ทั้งสองอยู่กินกันมานานกว่า 30 ปี เเละมีลูกด้วยกัน 3 คน โดยนี่เป็นเรื่องราวของ นายอนันต์ จันทร์คง อายุ 63 ปี หรือพี่ม่อน เป็นชาวจังหวัดสงขลา ส่วนภรรยาชื่อ นางย๊ะ อายุ 60 ปี เป็นชาวชนเผ่ามันนิ ซึ่งเคยอาศัยอยู่ในจังหวัดสตูล เเต่ปัจจุบันทั้งคู้ได้ย้ายมาสร้างถิ่นฐานด้วยกันอยู่ที่ จังหวัดสงขลา ร่วม 10 ปี ซึ่งก็มีชาวมันนิอีก 2 ครอบครัวที่อาศัยที่นี่ รวมทั้งสิ้น 18 คน อยู่บริเวณใกล้กับน้ำตกบริพัตร เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง

นายอนันต์ หรือ พี่ม่อน ที่ปัจจุบันนี้จะคอยทำหน้าที่ดูเเลเงาะป่ากลุ่มนี้ เเละคอยประสานงานกับเจ้าหน้าที่ทางราชการ โดยเงาะป่ากลุ่มนี้จะใช้นามสกุลว่า “ศรีบริพัตร” เป็นนามสกุลที่ได้รับพระราชทานจากสมเด็จย่า โดยพี่ม่อนได้เล่าเรื่องราวความรักของตนเองกับนางย๊ะว่า ย้อนหลังไปประมาณ 30 ปีก่อน ซึ่งตอนนั้น ตนได้เข้าไปล่าสัตว์กับเพื่อนที่บ้านวังประจัน เเละไปพบกับเงาะป่ากลุ่มนี้รวมไปถึงนางย๊ะด้วย เมื่อเข้าป่าไปหลายๆครั้งก็สนิทสนมชอบพอกัน จึงตัดสินใจใช้ชีวิตด้วยกัน โดยตนได้ไปพูดขอกับพ่อเเม่ของฝ่ายหญิง ซึ่งทั้งสองก็ไม่ได้ติดขัด เนื่องจากลูกสาวก็ชอบพอด้วย

ตอนเเรกตนก็อยู่ในป่ากับภรรยาบ้าง เเละกลับเข้าบ้างวังประจันบ้าง เเต่ปัจจุบันได้ย้ายมาอยู่ในป่า ที่อ.รัตภูมิ มีลูกกัน 3 คน คนโตอายุ 26 ปี เเละตอนนี้ครอบครัวของตนก็อาศัยอยู่ที่นี่ทุกคน

นายอนันต์เล่าต่อว่า ตนจะขอดูเเลมันนิกลุ่มนี้ให้มีวิถีชีวิตที่หมือนเดิมมากที่สุด ไม่ให้กลืนไปกับชีวิตคนเมือง เเละคอยร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้างในการช่วยดูเเลป่า คอยเเจ้งข่าวเมื่อมีผู้บุกรุกหรือเข้ามาล่าสัตว์ ให้เจ้าหน้าที่ได้ทราบ

ในวันที่ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปทำการรำรวจนั้น นางย๊ะ ภรรยาของนายอนันต์ไม่ได้อบู่ในทับ เนื่องจากถูกงูกะปะกัดที่เท้า จึงถูกส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลรัตภูมิ