สกัดจับให้วุ่น! หนุ่มบุรีรัมย์ไม่มีงาน อยากกลับบ้าน เชิดรถตำรวจขับ สุดท้ายโดนจับก่อน

เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2563 เวลาประมาณ 14.00 น. วิทยุตำรวจ สภ.สตึก อ.สตึก ได้แจ้งสกัดจับรถกระบะ 4 ประตู ซึ่งเป็นรถสายตรวจรถยนต์ของ สภ.สตึก มุ่งหน้าไปทางจังหวัดบุรีรัมย์ เนื่องจากถูกคนร้ายขโมยไป ต่อมาได้รับแจ้งจากตำรวจจราจรที่ตั้งด่านอยู่ที่แยกจอมพระ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 4 กม. ว่าสามารถจับกุมได้แล้ว ทราบชื่อผู้ขโมยรถคือ นายชิดชัย กุมรัมย์ อายุ 31 ปี ชาวจ.บุรีรัมย์ ตำรวจจึงนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.สตึก พร้อมกับตรวจปัสสาวะ แต่ไม่พบสารเสพติดอยู่ในร่างกาย อีกทั้งไม่พบว่าเมาสุรา โดยนายชิดชัย ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนขับรถของตำรวจออกมาจริง เพราะอยากกลับบ้านที่ อ.บ้านกรวด

นายชิดชัยเล่าว่า ตนตกงานเเละไม่มีเงินติดตัว จึงไปหางานทำที่ อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม เเต่ไม่มีงานทำจึงอยากกลับบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจที่โกสุมพิสัย สงสารก็ให้เงินมา 140 บาท ตนจึงเองเงินนั้นไปซื้อตั๋วโดยสารกลับบ้าน เเต่ตั๋วราคา 140 บาทมาถึงได้เเค่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์เท่านั้น ยังห่างจากบ้านตัวเองกว่า 100 กิโลเมตร ตนจึงเดินเตร่ไปเตร่มา เพื่อหาทางกลับบ้าน กระทั่งมาถึงหน้าธนาคารเเห่งนี้พบรถของตำรวจ จึงเปิดเข้าไปเเละเห็นว่าไม่มีคน ประกอบ กับเเอร์ในรถเย็นฉ่พ จึงขึ้นไปนั่ง เเละเกิดความคิดว่า “รถคันนี้นี่เเหละจะพากลับบ้าน” จึงขับออกไป จนมาเจอด่านตำรวจสกัดจับ

เมื่อสอบถามผู้อยู่ในเหตุการณ์ ชื่อ นส.พนิดา มะลิกา อายุ 28 ปี เป็นเเม่ค้าขายกลัวปิ้งอยู่หน้าธนาคาร เล่าว่า ปกติก็จะเห็นรถตำรวจมาจอดที่หน้าธนาคารทุกวัน วันนี้เช่นกัน เมื่อจอดรถ เจ้าหน้าที่ก็จะเข้าไปในธนาคารเเพื่อตรวจสอบความเรียบร้อย ตนเห็นเเล้วว่าผู้ชายคนนี้มาเดินอยู่รอบรถ เเต่คิดว่าเป็นตำรวจนอกเครื่องเเบบ เมื่อเห็นว่าเปิดประตูเข้าไปนั่งก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนกระทั่งชายคนนี้ขับรถออกไป เเละฝ่าไฟเเดงถึง 2 เเยก

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ออกมา เเละยืนงง พร้อมถามว่า “รถผมไปไหน” ตนก็บอกว่า “ไปนู้นเเล้ว ฝ่าไปเเล้ว2ไฟเเดง” เเละเพิ่งมาทราบว่าี่ขับรถออกไปไม่ใช่ตำรวจ