จากกรณีที่มีชาวเน็ตเเชร์ภาพคนขับรถเเท็กซี่ที่มีสายออกซิเจนมัดติดเบาะ พร้อมเสียสายใช้หายใจเอาไว้ด้วย ต่อมาพบว่าคนขับเเท็กซี่คนนี้ป่วยด้วยโรคไต เเต่จำเป็นต้องออกมาขับรถหาเลี้ยงชีพด้วยความจำเป็น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังหน้าเรือนจำจังหวัดปทุมธานี ตำบลบางกระบือ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นวินแท็กซี่ที่นาย สุเมธ คอยจอดรับผู้โดยสาร และวิ่งรับส่งภายในจังหวัดปทุมธานี แต่ไม่พบนายสุเมธ จึงได้เดินทางไปยังห้องเช่า เลขที่ 96/ 2 หมู่ที่7 ตำบลไม้ตรา อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งนายสุเมธได้เช่าพักอาศัยอยู่เพียงลำพัง
จากการสอบถาม นาย สุเมธ เล่าว่า ตนเองเป็นโรคไตระยะสุดท้ายมาได้สามปีกว่า จากเดิมมีโรคประจำตัวคือโรคเบาหวานจนเกิดแผลพุพองที่นิ้วเท้าทั้งสองจนต้องตัดนิ้วทิ้ง หมอจึงตรวจค่าเลือดเพื่อผ่าตัดทำให้ตรวจพบว่าตนเองเป็นโรคไตระยะสุดท้าย แต่ตนไม่มีเงินจึงต้องเจาะช่องท้องเพื่อฟอกไต ทำให้ไม่สามารถทำงานหรือยกของหนักได้ และมีอาการเหนื่อยง่ายจนต้องใช้เครื่องช่วยหายใจในบางครั้ง
การขับแท็กซี่จึงเป็นงานที่ตนเองพอทำได้และจำเป็นต้องทำเพราะต้องหาค่ารักษาพยาบาลและหาเงินมาใช้เพื่อดำรงชีพซึ่งตนอยู่คนเดียว มีค่าเช่าห้องเดือนละ 1,200 บาท ค่าน้ำค่าไฟประมาณ 400 บาท ค่าอุปกรณ์ทำแผลต่างๆที่ต้องใช้ ส่วนน้ำยาฟอกไตใช้สิทธิ์บัตรทองในการรักษา ซึ่งจะต้องฟอกไตวันละ 3 ครั้ง คือช่วงเวลา 06.00 น. 16.00 น. และ 21.00 น. ส่วนค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน มีค่าแท็กซี่ 700 บาท ค่าแก๊สเชื้อเพลิง 300 บาท ค่าออกซิเจนที่ตนต้องใช้ช่วยหายใจวันละ 100 บาท และค่ากินในแต่ละวัน
อาการป่วยเป็นสาเหตุให้ต้องออกมาขับแท็กซี่ทุกวันเพื่อหาค่าใช้จ่าย อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องการมองเห็นเพราะเบาหวานขึ้นตาและเป็นต้อซึ่งกำลังรอการผ่าตัด ตอนนี้ตนไม่ค่อยมีรายได้จึงต้องขายโทรศัพท์และเตาแก๊สไปเพื่อนำเงินมาใช้จ่าย ตอนนี้ตนอยากได้เตาแก๊สคืนและโทรศัพท์เพื่อไว้ใช้ซึ่งเครื่องที่มีอยู่เป็นเครื่องเล็กซึ่งมองไม่ค่อยเห็นเพราะสายตาตนเองไม่ค่อยดี ซึ่งหากมีคนบริจาคจนได้ยอดที่พอสมควรตนก็จะปิดรับบริจาค หากโชคดีมีคนบริจาคมาเยอะตนก็อยากได้แท็กซี่มือสองมาเป็นตนเองซักคันเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเช่า ตนจะสู้จนถึงที่สุดและขอบคุณคนไทยทุกคนที่ได้ช่วยเหลือตน