วันนี้จะมานำเสนอมื้อเย็นแบบไม่เกิน 200 แคลอรี เอาใจคนรักสุขภาพช่วงนี้หน่อย และไม่ได้มีแต่ผักผลไม้นะ มีเมนูอื่นเนื้อ ไก่ กุ้ง ครบ พูดแล้วหิวเลย เอาเป็นว่าไปดูกันเลยดีกว่า…
1. ส้มตำ
ปริมาณแคลอรี่ : 120 กิโลแคลอรี่
แต่ถ้าอยากให้แคลต่ำกว่านี้บอกแม่ค้าไปเลยค่ะว่าไม่ใส่ปู ถ่วลิสง และลดหวาน ลดเค็มด้วยก็ดี แล้วยิ่งแกล้มกับผักสดๆ บอกเลยว่าอร่อยสุดยอก แถมยังเพิ่มไฟเบอร์ให้ร่างกายไปอีก!
2. น้ำพริกปลาทู
ปริมาณแคลอรี่ : 77 กิโลแคลอรี่
ถ้าเลือกกินกับข้าวสวย 1 ทัพพี (80 กิโลแคลอรี) หรือกินกับไข่ต้ม 1 ฟอง (75-80 กิโลแคลอรี) คำนวนแล้วยังไงก็ไม่มีทางเกิน 200 แน่นอน
3. น้ำพริกหนุ่ม
ปริมาณแคลอรี : 18 กิโลแคลอรี่สำหรับ 1 ช้อนโต๊ะ
สำหรับอาหารเย็น 1 มื้อ อาจกินน้ำพริกหนุ่มไม่เกิน 3-4 ช้อนโต๊ะ (ประมาณ 54-72 กิโลแคลอรี) คู่กับข้าวสวย 1 ทัพพี (80 กิโลแคลอรี) เสริมด้วยผักสด ผักต้ม หรือจะเพิ่มไข่ต้มสักครึ่งฟองก็ได้ (ประมาณ 35-40 กิโลแคลอรี) เท่านี้ก็อิ่มอร่อยแล้ว
4. ลาบเต้าหู้ไก่สับ
ปริมาณแคลอรี : 189 กิโลแคลอรี อีกทั้งยังเต็มไปด้วยประโยชน์ของเจ้าหู้และไก่
5. ลาบปลาดุก
ปริมาณแคลอรี : 167 กิโลแคลอรี
บอกเลยว่าเมนูนี้ประโยชน์เพียบ เพราะมีไขมันต่ำ ย่อยง่าย ให้โปรตีนดี ในปลาดุกยังอุดมไปด้วยกรดไขมันชนิดดีที่ช่วยลดความดันในเลือด ป้องกันการอุดตันของเส้นเลือด โอ๊ย สารพัดประโยชน์จากเมนูนะ ต้องกินค่ะ!
6. ไก่ย่าง (เนื้ออกหรือสะโพกไม่ติดหนัง)
ปริมาณแคลอรี : 160 กิโลแคลอรี
ไก่เป็นไอเท็มยอดฮิตของคนลดน้ำหนักเลยก็ว่าได้ เพราะมีไข่มันต่ำแต่ให้โปรตีนสูง กินแกล้มสลัดก็ได้ บอกเลยว่าแนะนำเมนูนี้
7. สลัดผัก
ปริมาณแคลอรี : 110 กิโลแคลอรี
แนะนำว่าอย่าใส่ย้ำสลัดเยอะเกินไปเพราะอาจเกิน 200 แคลอรีได้ แต่อย่างที่บอกว่าสลัดสามารถทายนคู่กับอกไก่ย่างได้ รับรองว่าอิ่มมาก
8. สลัดทูน่า
ปริมาณแคลอรี : 140 กิโลแคลอรี
ถ้าอยากเน้นโปรตีนก็ขอแนะนำเมนูเลยค่ะ เพราะมีโปรตีนคุณภาพดีจากปลา มีกรดไขมันดีที่ช่วยลดไขมันเลวในร่างกายได้ และแน่นอนว่ากินปลาก็จะได้ DHA สารอาหารบำรุงเซลล์สมอง แต่ถ้าอยากได้สารอาหารเพิ่มอีกหน่อย แนะนำให้กินคู่กับไข่ต้มสักครึ่งฟองก็ได้
9. ยำถัวพลู
ปริมาณแคลอรี : 110 กิโลแคลอรี่
เมนูนี้สุดปังจริงๆค่ะ เพราะไฟเบอร์เยอะ แคลเซียม ฟอสฟอรัส และมีธาตุเหล็กจากกุ้ง อร่อย แซ่บและยังไม่ทำให้อ้วนอีกด้วย!!
10. ยำวุ้นเส้น
ปริมาณแคลอรี : 120 กิโลแคลอรี
สามารถกินแทนข้าวได้ หรือจะเสริมผักสดเพิ่มไฟเบอร์ไปอีกนิดก็ได้เหมือนกัน แต่เวลากินยำอยากเตือนให้ระวังรสเค็ม ผงชูรส และน้ำเชื่อมที่มากับน้ำยำสักหน่อยนะคะ หากลดทอนได้ กินแบบรสชาติกลาง ๆ ไม่จัดเกินไป ก็จะดีต่อสุขภาพและการลดน้ำหนักมากขึ้น
ที่มา : Kapook