พังดัมมี่ มีชื่อจริงว่า “บัวคำ” ตามตั๋วรูปพรรณช้าง เป็นน้องช้างขวัญใจโซเชียลวัย 23 ที่ถูกเลี้ยงมาแบบใกล้ชิดธรรมชาติ ค่อนข้างอิสระ ไม่มีล่ามโซ่ ไม่ใช้ตะขอ มีการสอนแบบใช้เสียงพูดคุยกัน ทำให้น้องมีการคุยโต้ตอบกับพ่อควาญอยู่ตลอด จนกลายเป็น “ดัมมี่ช้างขี้บ่น”
ก่อนหน้านี้ดัมมี่เป็นช้างรับนักท่องเที่ยวที่รีสอร์ตในภูเก็ต มีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวให้อาหาร อาบน้ำช้าง เล่นน้ำทะเลด้วยกัน น้องชอบนั่งดูทะเล โดยมีควาญช้างคู่ใจคอยถ่ายคลิป ไลฟ์กิจกรรมของน้องลง TikTok จนมีแฟน ๆ ในโลกโซเชียลจำนวนไม่น้อย
ในช่วงปลายเดือนมกราคม 2567 มีข่าวว่าทางเจ้าของมีความจำเป็น จึงได้ตัดสินใจขายดัมมี่ให้กับปางช้างแห่งหนึ่งที่หาดใหญ่ ซึ่งดัมมี่จะต้องไปทำหน้าที่ให้นักท่องเที่ยวขี่หลัง โดยมีควาญช้างที่ปางช้างคุมอีกที ซึ่งทางพ่อควาญก็โพสต์คลิปอำลาน้อง ทำเอาแฟน ๆ ต่างเศร้า และเสียใจเป็นอย่างมาก
หลายคนช่วยกันแชร์ อยากช่วยเหลือ ร่วมไถ่ตัวน้อง หวังให้น้องช้างดัมมี่ได้อยู่กับพ่อควาญคนเดิมต่อ และไม่อยากให้น้องต้องไปทำหน้าที่ช้างแท็กซี่ ซึ่งไม่มีอิสระเหมือนแต่ก่อน ทั้งที่กว่า 20 ปีที่ผ่านมา น้องไม่ได้มีชีวิตแบบนี้มาก่อน กลัวน้องจะไม่มีความสุข
มีคนส่งเรื่องราวของ “พังดัมมี่” ไปที่ พระครูอ๊อด วัดเจดีย์หลวงเชียงใหม่ ซึ่งทาง “พระครูอ๊อด” ได้ติดต่อสอบถามทางเจ้าของ จึงทราบถึงความจำเป็น หลัก ๆ คือปัญหาทางด้านการเงิน จึงได้เปิดแคมเปญไถ่ชีวิตดัมมี่ เมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ เป็นจำนวนเงิน 2.1 ล้านบาท
โดยอีกหนึ่งเหตุผลที่พระครูอ๊อด ตัดสินใจช่วยพังดัมมี่ คือเรื่องที่ “ควาญโหน่ง” ควาญคู่ใจของแสนไกร ช้างตระกูลแสน ที่เพิ่งจากไปด้วยโรคมะเร็งเมื่อเดือนมกราคม เคยเป็นครูฝึกและคนดูแลดัมมี่ตอนเด็ก ๆ การช่วยดัมมี่ จึงเป็นการอุทิศกุศลให้กับควาญโหน่งด้วย
ทางพระครูอ๊อด ได้โอนเงิน 5 แสนบาท เพื่อเป็นการมัดจำกับทางเจ้าของ “ดัมมี่” และได้เปิดให้ญาติโยมร่วมบุญ เพื่อช่วยเหลือน้อง โดยตั้งใจให้ พังดัมมี่ มาเป็นช้างตระกูลแสน เชือกที่ 16 โดยตั้งชื่อใหม่ว่า “แสนรู้” และตั้งใจให้อยู่ในความดูแลของสถาบันคชบาล จ.ลำปาง
นอกจากญาติโยมที่ร่วมบุญกันในครั้งนี้ ยังมีอีกแรงสำคัญจาก คุณหนูนา กัญจนา ศิลปอาชา ที่ร่วมสมทบทุน 1 ล้านบาท เพื่อไถ่ตัวพังดัมมี่ และยังช่วยพูดคุยกับทาง สถาบันคชบาล ในการรับตัวน้องมาดูแลด้วย
พังดัมมี่ เริ่มต้นเดือนทางจากใต้ขึ้นเหนือ ในช่วงเช้าวันที่ 6 ก.พ. 67 โดยคาดว่าจะใช้เวลาเดินทางไม่ต่ำกว่า 30 ชั่วโมง ซึ่งทางพระครูอ๊อด ก็คอยอัปเดตการเดินทางของน้องอยู่ตลอด ขณะแฟน ๆ ก็คอยติดตามกันอย่างใจจดใจจ่อ
ช่วงค่ำวันที่ 7 ก.พ. 67 พังดัมมี่ ได้เดินทางมาถึงที่หมาย โดยมี พระครูอ๊อด และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องมาต้อนรับ โดยชื่อใหม่ของน้องคือ “พังแสนรู้” ซึ่งจะเป็นช้างตระกูลแสนเชือกสุดท้าย ที่พระครูอ๊อดช่วยไถ่ตัว โดยน้องจะใช้ชีวิตอยู่ที่ ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยลำปาง ไม่ต้องเร่ร่อนไปไหนอีก
พังดัมมี่ หรือชื่อใหม่ พังแสนรู้ ได้เข้ามาอยู่ในการดูแลของศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง โดยเป็นช้างเชือกที่ 125 ของศูนย์ โดยคุณหมอได้เก็บตัวอย่างเลือดน้องเพื่อตรวจโรคตามระเบียบ หลังจากนั้นน้องก็ล้มตัวหลับไป คุณหมอบอกว่าน้องคงจะเหนื่อยมาก ขณะแฟน ๆ ต่างก็เอ็นดู และรอติดตามน้องต่อไป
หลายคนเรียกร้องอยากให้พ่อควาญคนเดิมมาเป็นผู้ดูแล พังดัมมี่ (แสนรู้) ต่อไป ซึ่งทาง พระครูอ๊อด ได้เผยเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย เปิดกว้างรับควาญ แต่ขอให้มาสมัครตามระเบียบของราชการ ครับ” ซึ่งก็มีแฟน ๆ ให้กำลังใจพ่อควาญ อยากให้มาสมัคร และได้รับหน้าที่ดูแลน้องต่อไป
ล่าสุด (9 ก.พ. 67) ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง ได้อัปเดตเรื่องน้องแสนรู้ (พังดัมมี่) ว่าเมื่อคืนน้องหลับปุ๋ยตั้งแต่ 2 ทุ่ม ขับถ่ายปกติ เช้านี้ตื่นมาด้วยความร่าเริง หู-หางโบกสะบัด มีคุยกับคุณหมอและพี่ควาญเป็นระยะ โดยทางเพจของศูนย์ฯ จะคอยอัปเดตเรื่องสุขภาพ และความเคลื่อนไหวของน้องมาฝาก FC เพิ่มเติมกันต่อไป
โดยแฟน ๆ สามารถไปติดตาม พังดัมมี่ (แสนรู้) กันต่อได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง The Thai Elephant Conservation Center Lampang