ระทึก! เกิดเหตุยิงกันหน้าห้าง เสียชีวิต 1 บาดเจ็บ 2 ราย

วันที่ 14 มี.ค.67 พ.ต.ต.กิตติศักดิ์ สุนทรวิภาต สว.(สอบสวน) สน.บางยี่ขัน รับแจ้งจากห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลศิริราช ว่ามีผู้ถูกยิงได้บาดเจ็บมารักษาตัวช่วงกลางดึกที่ผ่านมา และเสียชีวิตแล้ว จึงไปตรวจสอบพร้อมพ.ต.อ.พายัพ สมบูรณ์ ผกก.สน.บางยี่ขัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและเจ้าหน้าที่สายตรวจ ภายในห้องฉุกเฉินพบศพนายธนู อายุ 29 ปี มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนไม่ทราบขนาดที่หน้าท้อง 3 แผล สอบสวนทราบว่าถูกส่งตัวมาจากหน้าห้างดัง ถนนบรมราชชนนี เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ เมื่อช่วงเวลาประมาณ 02.00 น.ที่ผ่านมา

สำหรับคดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 14 มี.ค. พ.ต.ต.กิตติศักดิ์ สุทรวิภาต สว.(สอบสวน)สน.บางยี่ขัน รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทด้วยอาวุธปืนมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.พายัพ สมบูรณ์ ผกก.สน.บางยี่ขัน ฝ่ายสืบสวนกก.สส.บกน.7 ฝ่ายสืบสวนสน.บางยี่ขัน และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าห้างฯพบผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ประกอบด้วย นายธนู อายุ 29 ปี ถูกยิงที่หน้าท้อง 3 แผล อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเร่งทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลศิริราช เสียชีวิตในเวลาต่อมา และนายวรุฒ น.ส.วิภาดา ทั้ง 2 ถูกกระสุนปืนเฉี่ยวที่ขาซ้ายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย หน่วยกู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาลเจ้าพระยา และยังมีตำรวจนอกเครื่องแบบ ซึ่งเป็นนักเที่ยวถูกเศษกระจกบาดได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตพร้อมกับเพื่อน 3-4 คน มาเที่ยวกันที่ร้านอาหารอยู่ชั้น 1 ภายในห้าง โดยมือปืนได้มากับเพื่อน 2-3 คน โดยก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตเข้าไปขอชนแก้วกับนักเที่ยวสาวภายในร้าน ซึ่งเป็นสาวคนเดียวกับที่มือปืนมองอยู่ด้วยเช่นกัน จึงทำให้เกิดการเขม่น จนหวิดปะทะกัน ทำให้การ์ดของร้านต้องเข้ามาหย่าศึก แล้วบอกให้ผับปิดทันที

จากนั้นทยอยเคลียร์แขกออกมาหน้าร้าน จนกระทั่งกลุ่มของมือปืนออกมากลุ่มสุดท้าย เมื่อเจอนายธนูยืนอยู่หน้าห้าง คิดว่าจะรอหาเรื่อง จึงรีบวิ่งลงไปที่ลานจอดรถชั้นใต้ดิน หยิบเอาปืนพกขนาด 9 มม. แล้ววิ่งมายิงใส่กลุ่มของนายธนู แล้วมือปืนก็วิ่งลงไปขับรถเบนซ์ สีดำ หลบหนีไป โดยมีรถโตโยต้า ยารีส สีดำ ขับหลบหนีตามกันไปในเส้นทางถนนบรมราชชนนีขาออกอีกด้วย เจ้าหน้าที่วิทยุสกัดจับ แต่ก็ไร้วี่แวว จากการตรวจสอบทะเบียนรถเบนซ์คันก่อเหตุ ทราบว่าเจ้าของได้ขายให้กับเต็นท์รถไปแล้ว ผู้ที่ซื้อต่อไปยังไม่ได้ใส่ชื่อผู้ครอบครอง