พ่องง ค่าไฟพุ่งกว่า 5 พัน หลังเปลี่ยนมิเตอร์เป็นระบบดิจิทัล อยู่สองคนกับลูก ปกติแค่เดือนละ 300

ประชาชนรายหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองอุทัยธานี ได้มีการร้องเรียนเนื่องจากบิลค่าไฟฟ้าที่สูงกว่าที่ใช้ตามจริง หลังจากที่ได้เปลี่ยนมิเตอร์ใบใหม่มาได้เพียง 1 เดือน จากเดิมที่เคยเสียเพียงเดือนละ 300 กว่าบาท กลายเป็น 5,000 กว่าบาท ติดต่อแจ้งเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าไปแล้วแต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด

โดยเป็นบ้านเช่าเลขที่ 231/7 ถนนศรีอุทัย ตำบลอุทัยใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี พบกับ นายเฉลิมศักดิ์ แม้นพยัคฆ์ อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นผู้ร้องเรียน เล่าว่า เช่าบ้านหลังนี้อยู่กับลูกชาย มานานกว่า 2 ปีแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร เพราะอยู่กันแค่ 2 คน จึงไม่ค่อยได้ใช้ไฟฟ้าอะไรกันมาก รวมๆแล้วแต่ละเดือนจะใช้ไฟกันอยู่ที่ประมาณ 100 กว่าหน่วย คิดเป็นเงินค่าไฟฟ้าประมาณ 300 กว่าบาท เพราะที่ห้องมีเครื่องใช้ไฟฟ้าแค่ที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ทีวี พัดลม เครื่องซักผ้า แค่นั้น

จนกระทั่ง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทางไฟฟ้าได้เข้ามาเปลี่ยนมิเตอร์วัดค่าการใช้ไฟฟ้าใหม่ เพื่อให้เป็นระบบที่มีตัวเลขดิจิทัลขึ้นมา ซึ่งเป็นการเปลี่ยนกันทั่วจังหวัด ตนเองนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ บิลค่าไฟฟ้าไม่มีส่งมาให้เหมือนทุกครั้งก็เริ่มเอะใจ กลัวว่าจะโดนตัดหม้อ เลยเอาบิลค่าไฟฟ้าเก่ามาลองสแกนดู ก็พบว่ามียอดค่าไฟฟ้าเดือนกุมภาพันธ์ อยู่ที่ 1,084 หน่วย ยอดค้างชำระเป็นเงินจำนวน 5,374.77 บาท ซึ่งตอนนั้นก็ตกใจและคิดว่าต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ สาเหตุน่าจะเกิดจากการเปลี่ยนหม้อหรือมิเตอร์ใหม่อย่างแน่นอน และความผิดพลาดในครั้งนี้น่าจะเป็นที่เจ้าหน้าที่ ที่มาจดหน่วยมากกว่า ที่อาจจะจดผิดแล้วไม่ได้แจ้งให้ทางการไฟฟ้าหรือเจ้าหน้าที่ออกบิลแก้ไข ซึ่งบิลค่าไฟฟ้าเดือนมีนาคม ที่นำมาส่งนี้ก็มียอดเท่าปกติที่ 100 กว่าหน่วย ยอดเงินที่ต้องชำระอยู่ที่ 322 บาท มีเพียงเดือนกุมภาพันธ์เดือนเดียวเท่านั้นที่สูงเกินจริง

นายเฉลิมศักดิ์ บอกว่า ตัวเองนั้นเป็นลูกจ้างส่งแก๊ส ได้เงินค่าแรงแค่วันละ 300 บาท ไม่มีกำลังมากพอที่จะมาชำระค่าไฟฟ้ายอดเดือนกุมภาพันธ์ ที่มียอดค้าง 5,000 กว่าบาทได้ หากเจ้าหน้าที่จะมาตัดไฟก็คงต้องยอม เพราะมันเกินกำลังตนเองจริงๆ ซึ่งทางตัวเองก็ได้ทำการแจ้งเรื่องดังกล่าวนี้ไปแล้วประมาณ 5 วันแล้ว แต่ก็ยังไม่มีคนของการไฟฟ้าติดต่อมาแต่อย่างใด