เมื่อวันที่ 6 เม.ย.67 เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างสระแก้วธรรมสถาน จุดสี่แยกสระขวัญ รับแจ้งจากศูนย์สั่งการ 1669 ให้ตรวจสอบเหตุ กรณีมีผู้ประสบเหตุตกจากรถไถแบบใช้มือขับ หรือรถอีแต๋น ทับร่างกลางทุ่งไร่อ้อย ในพื้นที่ ม.7 ต.สระขวัญ อ.เมืองสระแก้ว
ทีมกู้ภัยมูลนิธิสว่างสระแก้วฯ นำโดย นายทวี ไพบูลย์ หัวหน้าจุดกู้ภัยฯ สี่แยกสระขวัญ พร้อมด้วยทีมกู้ภัยมูลนิธิฯ จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบชาวบ้านพื้นที่หมู่ 7 บอกว่า สามีเสียชีวิต
จากการตรวจสอบพบร่างของ นายสมชาย อายุ 57 ปี ชาว ต.สระขวัญ อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว นอนแน่นิ่ง จับดูชีพจรหยุดเต้น จึงทำ CPR ปั๊มหัวใจช่วยชีวิต แต่ก็ยังไม่สามารถปั๊มหัวใจช่วยชีวิตนายสมชายขึ้นมาได้
จากการสอบถาม นายทวี ไพบูลย์ หัวหน้าชุดกู้ภัยสว่างสระแก้ว จุดสี่แยกสระขวัญ เล่าว่า ญาติผู้เสียชีวิตเล่าว่า ผู้เสียชีวิตนำเมล็ดข้าวเตรียมจะนำไปหว่านบริเวณที่นาของตนเอง ที่บ้านใหม่ไพลวัลย์ ซึ่งต้องขับผ่านบริเวณไร่อ้อยที่ตัดแล้ว เพราะอยู่ตรงข้ามกัน โดยมากันกับครอบครัวพ่อแม่-ลูก หลังจากเสร็จภารกิจตรงแปลงแรกแล้ว จะเคลื่อนย้ายไปหว่านข้าวต่ออีกแปลง ซึ่งอยู่อีกฝั่งถนนสาย 359 สระแก้ว-เขาหินซ้อน ฝั่งบ้านเนินผาสุก
โดยทางเมียและลูกเดินทางไปรอยังที่นาก่อน จนเห็นนานผิดสังเกต เพราะมารอนานเป็นชั่วโมง ทั้งๆ ที่อยู่ใกล้แค่นี้ จึงเดินย้อนกลับมาดูยังเส้นทาง จากที่นาผ่านไร่อ้อยมายังจุดนาอีกแปลง พบเห็นรถไถหางยาวจอดอยู่ พร้อมกับหางลากที่บรรทุกข้าวเปลือก จำนวน 5 กระสอบ จึงเข้าไปดูพบร่างสามีนอนนิ่งอยู่กลางร่องไร่อ้อย จึงแจ้งให้มูลนิธิมาช่วยเหลือ แต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตได้ สำหรับรถไถแบบมือจับหรือรถอีแต๋น พบว่าไปชนกับท่อและเครื่องยนต์ดับเอง อยู่ห่างจากร่างของนายสมชายประมาณ 200 เมตร คาดว่านายสมชายน่าจะขับรถไถโดยใช้ความเร็วพอสมควร
เมื่อวิ่งในพื้นนาและผ่านไร่อ้อยที่เก็บเกี่ยวแล้ว แต่บังคับรถไม่อยู่หรือเกิดอาการวูบเพราะอากาศร้อนจัด ทำให้ตัวเองตกลงจากรถไถ แล้วเสื้อผ้าน่าจะถูกเกี่ยวจนถูกลากไปเป็นทางจนหลุด แล้วถูกล้อรถพ่วงที่บรรทุกข้าวเปลือกมาจำนวน 5 กระสอบ เหยียบร่างจนเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งทางญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต หลังพนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองสระแก้ว เข้าตรวจชันสูตรที่เกิดเหตุ จึงขอนำร่างกลับไปที่บ้านเพื่อเตรียมบำเพ็ญกุศลศพทางศาสนาต่อไป