วันที่ 15 เม.ย.67 ที่ตลาดเพิ่มพูนทรัพย์ สาขาไทรโยง ต.ครบุรี อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ถูกวงดนตรีรวม 6 วง เทงานคอนเสิร์ตฉลองเทศกาลสงกรานต์ประจำปี พ.ศ. 2567 ซึ่งเดิมทีจะต้องจัดขึ้นในวันที่ 14 เม.ย.67 ที่ผ่านมา ที่ตลาดเพิ่มพูนทรัพย์ ทั้งที่ได้โอนเงินจ่ายค่ามัดจำไปแล้วก่อนหน้านี้รวมกว่า 75,000 บาท
พร้อมค่าเตรียมงานอีกส่วนหนึ่ง ทั้งค่าจัดเตรียมสถานที่ ค่าโฆษณา ค่าว่าจ้างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและอื่น ๆ รวมเป็นเงินทั้งค่าดนตรีและอื่น ๆ หมดมากกว่า 140,000 บาท แต่กลับไม่มีวงดนตรีมาตามนัด ติดต่อกลับก็ไม่ยอมรับสาย นอกจากจะเสียเงินค่าเตรียมงานแล้ว ทางตลาดและตัวเองต้องมาเสียชื่อเสียงอย่างมาก
ตรวจสอบที่ตลาดเพิ่มพูนทรัพย์ ซึ่งเป็นสถานที่เตรียมงาน พบว่ายังคงมีการตั้งรั้วสังกะสีล้อมรอบบริเวณจัดงานและติดไฟประดับอยู่อย่างครบถ้วน แม้ว่าจะถูกวงดนตรีทั้งหมดทิ้งงานไปในวันจัดงานเดิมที่กำหนดเอาไว้ในวันที่ 14 เม.ย. ที่ผ่านมาก็ตาม แต่ก็ได้เปลี่ยนวันที่จัดงานใหม่จากวันที่ 14 เม.ย. เป็นวันที่ 15 เม.ย. แทน
นายจำลอง สินจังหรีด หรือเฮียตะวัน อายุ 50 ปี เจ้าของกิจการตลาดนัดเพิ่มพูนทรัพย์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เกือบ 1 เดือนตัวเองได้โพสต์ข้อความประกาศหาวงดนตรีเพื่อมาร่วมจัดงานคอนเสิร์ตเพื่อฉลองเทศกาลสงกรานต์ที่ตลาดนัดเพิ่มพูนทรัพย์สาขาไทรโยง ที่เพิ่งเปิดใหม่มาเมื่อไม่นานนี้ ในวันที่ 14 เม.ย. เนื่องจากวงดนตรีเจ้าประจำส่วนใหญ่ติดงานกันทั้งหมด
ก่อนที่จะมีชายอ้างตัวว่าเป็นเจ้าของวงดนตรีและมีเครือข่ายในวงการพร้อมที่จะมาร่วมงาน 6 วง พร้อมส่งรูปวงดนตรีขณะกำลังเล่นในงานต่าง ๆ มาให้ดูประกอบการตัดสินใจ จึงตกปากรับคำกับเรียบร้อย
จากนั้นก็ได้โอนเงินค่ามัดจำวงดนตรีทั้ง 6 วง ผ่านทางบัญชีธนาคารของ นายพิทักษ์พงศ์ รวมเป็นเงินกว่า 75,000 บาท ไปให้ พอถึงวันงานในช่วงเช้าก็ยังพอติดต่อสอบถามกันได้ แต่ตกช่วงสายโทรศัพท์ติดต่อไปก็ไม่รับก่อนที่ปลายสายจะปิดเครื่องไปในที่สุด
จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่สามารถติดต่อได้ ทำให้งานทั้งหมดต้องถูกยกเลิก ตัวเองต้องจ่ายค่าจัดเตรียมงานทุกอย่างเป็นเงินอีกเกือบ 70,000 บาท และยังต้องถูกประชาชนที่มารอร่วมงานต่อว่าจนเสียชื่อเสียงอย่างมาก ตัวเองต้องแก้ไขสถานการณ์ด้วยการระดมกำลังรถแห่และดนตรีจากในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาและบุรีรัมย์ มาแสดงชดเชยให้ผู้ที่ตั้งใจจะมาร่วมงานวันที่ 15 เม.ย.แทน
โดยมีพรรคพวกในวงการที่ทราบข่าวก็ติดต่อมาว่าจะนำวงดนตรีและรถแห่มาร่วมงานหลายเจ้า ทำให้ตอนนี้หมดเงินค่าจัดงานนี้ไปแล้วกว่า 200,000 บาท จึงอยากเชิญชวนให้ประชาชนมาร่วมงานกันเยอะ ๆ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเข้างาน เพื่อเป็นการขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ส่วนในเรื่องขอการดำเนินคดี ตอนนี้ทางตัวเองได้ไปลงบันทึกประจำวันกันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ท้องที่เอาไว้เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับกำลังให้ทนายดำเนินการฟ้องร้องเอาผิดกับคู่กรณี ซึ่งพบว่าเคยก่อเหตุหลอกลวงเช่นนี้มาแล้วหลายครั้งในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ยืนยันว่าจะเอาผิดอย่างถึงที่สุด เพื่อไม่ให้ไปหลอกลวงผู้อื่นเช่นนี้ได้อีกต่อไป