หดหู่ แม่อุ้มลูกวัย 8​ เดือนร้อง​ “กัน​ จอมพลัง”

แม่อุ้มลูกวัย 8​ เดือน ร้อง​ “กัน​ จอมพลัง”​ หลังโดนเมียอีกคนของสามี​ บุก​ราดน้ำกรดใส่หน้า​จนหูหลุด​-ตัวผิดรูป​ ส่วนลูกน้อยพิการ​ตาบอด​ ต้องให้อาหารทางสายยาง​ แต่คนทำผิดลอยนวล​

วันนี้ (28 เม.ย. 67) นางสาวเกตี (นามสมมติ) และลูกน้อยวัย 8 เดือน​ เดินทางมาร้องกับ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง หลังถูกเมียเก่าของสามีบุกราดน้ำกรดจนทำให้แม่หูหลุดหน้าเหลวผิดรูป แขนใช้ได้ข้างเดียว เละทั้งตัว และลูกน้อยวัย 8 เดือน ตาบอด 2 ข้าง หน้าตัวเละเหลวผิดรูป

กัน จอมพลัง กล่าวว่า 2​ แม่ลูกถูกผู้หญิงที่เป็นภรรยาเก่าของสามีเอาน้ำกรดราดตามตัว ขณะที่กำลังอาบน้ำให้ลูกน้อยวัย 2 เดือนในขณะนั้น มีการราดน้ำกรดที่ศรีษะ ทำให้น้ำกรดไหลลงมาที่แขนและตามตัว ตอนโดนราดแม่พยายามนั่งนิ่งๆไม่ให้ลูกสาววัย 2 เดือนโดนน้ำกรดไปด้วย ทำให้หูข้างขวาขาด ศรีษะละลายจนเห็นกะโหลก และมีแผลตามตัว จากนั้นภรรยาเก่าเห็นลูกน้อยอยู่ด้านหน้าก็นำน้ำกรดมาราดที่ลูกน้อยอีก ทำให้ลูกสาวตาบอดทั้ง 2 ข้าง จมูกหาย ตัวเละเหลวทั้งตัว จนต้องเจาะคอเพื่อหายใจ ทั้งคู่รอด แต่ใช้ชีวิตลำบาก และต้องใช้เงินรักษาตัวจำนวนมาก

หลังจากเกิดเหตุสามีของนางสาวเกตีพยายามวิ่งไล่ตาม แต่ไม่สามารถจับตัวได้ จากนั้นแม่ก็สลบไปและฟื้นอีกทีที่โรงพยาบาล สามีก็มาเยี่ยมเป็นพักๆ ก่อนขาดการติดต่อไปเมื่อเดือน พ.ย. 66 ที่ผ่านมา ซึ่งทราบว่า ตอนนี้สามีมีภรรยาใหม่แล้ว และทิ้งลูกทิ้งเมียเก่าให้อยู่กับความทุกข์ทรมาน ก่อนออกจากโรงพยาบาลนางสาวเกตีก็ได้ทักไปขอความช่วยเหลือเรื่องที่พัก เพื่อจะรักษาตัว แต่สามีตอบกลับมาเพียงว่า “ไม่รู้” และเงียบหายไป เลยตัดสินใจมาขอความช่วยเหลือกับทางกัน จอมพลัง เพราะอยากให้แขนกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม และอยากให้ลูกมองเห็นและเดินได้เหมือนเด็กปกติ

ซึ่งในวันเกิดเหตุ นางสาวเกตีจับได้ว่าสามียังไม่เลิกกับเมีย แต่มาอ้างกับตนว่าเป็นเมียเก่า จึงตัดสินใจจะย้านออก และจะขนของออกตอน 22:00 น. ของวันนั้น แต่เหตุเกิดตอน 18:00 น. ซึ่งกัน​ จอมพลัง​ สังเกตว่า​ เป็นการชี้เป้าหรือไม่ อีกทั้ง ภรรยาเก่ายังตามราวีตลอดในช่วงก่อนคลอด ทั้งส่งยาทำแท้งมาให้ โพสรูปเกตีลงในโซเชียลว่า “ผญคนนี้ขายบริการ สนใจให้ติดต่อที่ตนได้เลย”

ในส่วนของเรื่องคดี หลังจากทั้งคู่ออกจากโรงพยาบาลได้เดินทางไปแจ้งความเมื่อวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา ที่ฝั่งพม่า หลังจากนั้นก็ได้เดินทางมาแจ้งความที่ สภ.สังขละบุรี จ. กาญจนบุรี แต่ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ต้องให้ทางพม่าโอนคดีมาฝั่งไทย และรับปากจะช่วยอย่างเต็มที่

ด้านนางสาวเกตี เปิดเผยว่า เหตุเกิดเมื่อ 19 ตุลาคม 2566 เวลา 5-6 โมงเย็น ขณะนั้นตนกำลังอาบน้ำให้ลูกน้อย และในขณะเดียวกันมีผู้หญิงทักมาหาว่า “มึงอยู่ไหน ให้ผัวกูรับสายหน่อย” แต่ตนไม่ได้โต้ตอบอะไร ผู้หญิงก็ถามย้ำว่า “อยู่ไหน ให้มาเคลียร์” จากนั้นผู้หญิงคนนัเนก็เดินมาจากข้างหลังเพื่อลงมือก่อเหตุดังกล่าว ตอนนั้นเห็นลูกร้องแล้วรู้สึกทรมานมาก อยากเป็นแทนลูก อยากตายแทนลูก หลังจากนั้นลูกสาวก็ร้องไห้เพราะเจ็บปวดอยู่ตลอด ตัวเองก็ปวดทั้งตัวทรมานมาก แขนข้างซ้ายตนไม่สามารถเหยียดตรงได้ ลูกสาวตาซ้ายบอดสนิท ตาขวาหมอบอกว่าสามารถผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาได้ แต่ค่าใช้จ่ายหลักแสนบาท

ซึ่งตอนนี้ตนมีเงินติดตัวเพียง 30 บาท มาขอความช่วยเหลือกับกัม จอมพลัง เพราะเชื่อว่าจะช่วยเหลือได้ โดยค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด 450,000 บาท แม่ของอดีตสามเป็นคนดูแลทั้งหมด แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้ช่วยเหลือต่อเนื่องจากปัญหาทางการเงิน ตอนนี้ก็ต้องคอยรักษาตลอด เวลานอน และคื่นนอนก็จะปวดตามตัวไปหมด

กัน จอมพลัง เผยอีกว่า ในวันพรุ่งนี้ 10:00 น. ตนจะพาทั้งคู่ไปพบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเพื่อขอความช่วยเหลือทางคดี และในช่วงบ่าย จะพาทั้งคู่ไปที่สถานเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทย เพื่อขอขยายวีซ่าให้ทั้งคู่ได้รักษาตัวต่อในประเทศไทย