นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ภายในเดือน พ.ค.นี้ กระทรวงการคลังจะเริ่มจัดเก็บภาษีมูลค่า (แวต) 7% สำหรับสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท หลังได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) และจัดทำรายละเอียด กฎหมายเสร็จแล้ว ซึ่งจะช่วยสร้างความเป็นธรรมให้แก่ระบบการค้าในประเทศ ทำให้สินค้าที่ซื้อจากต่างประเทศผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์จะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม เหมือนกับสินค้าที่ซื้อจากร้านค้าในไทยทั่วไป ทั้งนี้ จะเริ่มเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มกับสินค้าตั้งแต่บาทแรก เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกัน ส่วนอากรขาเข้าก็ยังเป็นอำนาจของกรมศุลกากร ซึ่งจะยังยกเว้นอยู่ตามข้อตกลงร่วมกันระหว่างองค์การศุลกากรโลก โดยถือเป็นการทำตามมาตรฐานเหมือนประเทศอื่น ที่มีการยกเว้นอากรขาเข้าให้กับสินค้าที่ราคาไม่สูงอยู่แล้ว เพื่อลดภาระทางศุลกากร แต่ในส่วนภาษีมูลค่าเพิ่มก็จำเป็นต้องเก็บอยู่
“การเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากสินค้าออนไลน์และนำเข้าจากต่างประเทศ ช่วงแรกจะใช้อำนาจ ของกรมศุลกากรในการออกประกาศมาใช้ก่อน ซึ่งจะทำได้รวดเร็วกว่าและเก็บภาษีได้ทันที ส่วนระยะยาวจะต้องไปแก้ไขประมวลรัษฎากรของกรมสรรพากร ซึ่งจะใช้เวลานานกว่า จึงจะแก้ไขตามมาภายหลัง สำหรับรูปแบบการจัดเก็บภาษี ขณะนี้ยังต้องรอกฎหมายออกมาบังคับใช้ก่อน ยังเปิดเผยรายละเอียดไม่ได้ แต่ยืนยันว่าจะมีความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงแรกการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าที่มูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท จะให้ กรมศุลกากรเป็นผู้จัดเก็บเพื่อส่งให้กรมสรรพากร เหมือนการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในส่วนสินค้าที่ราคาเกิน 1,500 บาท ส่วนระยะถัดไปจะหารือกับผู้ประกอบการแพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้า ออนไลน์ให้เป็นผู้จัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม และนำส่งตรงให้กับกรมสรรพากร อาทิ หากสินค้า 100 บาท จะถูกเก็บภาษีเพิ่ม 7% หรือ 7 บาท ทำให้ผู้ซื้อชำระเงินรวม 107 บาท เป็นต้น.