มรดก 100ล้าน ส่อวุ่น ฝรั่งขับรถตาม ไม่พอใจต่อว่า ป้าติ๋ม เรียกตำรวจไล่นักข่าว อ้างเป็นผู้จัดการพินัยกรรม

จากกรณี นางแคทเธอรีน เดลาคอท อายุ 59 ปี แหม่มสาวนักธุรกิจชาวฝรั่งเศส เจ้าของวิลล่าให้เช่าบนเกาะสมุย ใช้ปืนจ่อขมับปลิดชีพตัวเองตายริมสระน้ำในวิลล่าหรู ก่อนเสียชีวิตทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินทั้งหมดให้ ป้าติ๋ม แม่บ้านคนสนิท หลังทราบป่วยเป็นมะเร็ง เบื้องต้นตำรวจสันนิฐานคิดสั้นเนื่องจากเครียดจากโรคร้าย แต่ยังคงเป็นปริศนา เนื่องจากก่อนเธอจะยิงตัวเอง วงจรปิดมุมสระน้ำจุดที่เธอยิงตัวตาย มุมกล้องได้ถูกกดลงทำให้ไม่เห็นนาทียิง รวมถึงก่อนหน้านี้วิลล่าของเธอเคยถูกคนร้ายบุกมาขโมยทรัพย์สินมาแล้ว ทว่า หลังจากข่าวช่อง 8 นำเสนอข่าวนี้ออกไป ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ นานา

ต่อมาทาง ลุยชนข่าว ได้เผยภาพเหตุการณ์หลังจากเดินทางไปรอป้าติ๋มที่บ้านพักวิลล่าหลังเกิดเหตุ ซึ่งกิจวัตรประจำวันของป้าติ๋มในแต่ละวัน ช่วงเช้าเธอจะเดินทางไปทำความสะอาดบ้านพักของเจ้านายทุกวันจันทร์-ศุกร์ แต่หลังจากนางแคทเธอรีนเสียชีวิต เธอจะต้องเดินทางมาเลี้ยงแมว ทั้ง 3 ตัวทุกวัน

กระทั่งบ่ายโมง ป้าติ๋มได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ มาพร้อมกับ นายมนู (เอ็มมานูเอล) ซึ่งเป็นชายฝรั่งคนสนิทของนางแคทเธอรีน ผู้ตาย โดยชายฝรั่งมีสีหน้าที่เคร่งเครียดและบอกให้ป้าติ๋มเข้าไปภายในบ้าน ห้ามพูดอะไรกับนักข่าว จากนั้นทั้งสองคนได้ขึ้นไปบนวิลล่าของผู้ตาย และมีการพูดคุยอะไรกันบางอย่างประมาณ 30 นาที

จากนั้น นายมนู ได้เปิดประตูบ้านออกมา และพยายามไล่ให้ทีมข่าวออกไปจากบ้าน และไม่อนุญาติให้นักข่าวสอบถามรายละเอียดอะไรกับป้าติ๋ม ทางป้าติ๋มก็ได้เดินตามหลังนายมนูออกมา และบอกกับทีมข่าวว่า วันนี้ตนเองขอไม่ให้ข่าวแล้ว เนื่องจากถูกทนายความและนายมนูเพื่อนสนิทของเจ้านายต่อว่าอย่างแรง เพราะไม่พอใจที่ป้าไปพูดเรื่องมรดกที่ดิน และรถของนางแคทเธอรีนที่ทางพินัยกรรมบอกว่าจะยกให้ป้าติ๋ม และตอนนี้ตนเองขอทำเรื่องจัดงานศพให้กับนางแคทเธอรีนให้ดีที่สุดก่อน และขอโทษนักข่าวด้วยที่ต้องมาเเล้วเสียเวลา ทุกอย่างต้องรอปรึกษาทนายก่อนอีกครั้ง จากนั้นนายมนูได้เดินเข้าไปในบ้านและได้โทรศัพท์เรียกตำรวจมาเดินทางมาที่บ้าน โดยนายมนูไม่กล้าออกมาจากบ้าน ต้องรอตำรวจสายตรวจมาถึง ถึงจะยอมขี่รถออกจากวิลล่าที่เกิดเหตุ

โดยทีมข่าวพยายามสอบถามตำรวจสายตรวจ 2 นายที่นายมนูเรียกมา ให้ข้อมูลว่า นายมนู ได้โทร. แจ้งอ้างว่า นักข่าวได้บุกรุกบ้านของผู้ตาย ซึ่งทีมข่าวได้ยืนยันว่า ไม่ได้บุกรุก และต้องการมาสอบถามรายละเอียดกับป้าติ๋มเท่านั้น และเมื่อวานนี้ป้าก็ให้ข้อมูลเป็นอย่างดี ซึ่งนายมนูได้อ้างกับตำรวจว่า ตัวเองเป็นผู้จัดการเรื่องพินัยกรรมทั้งหมดให้กับป้าติ๋มเอง ตามจดหมายที่คนตายส่งมาให้ ตนเองเป็นเพื่อนสนิทผู้ตายมากว่า 15 ปีแล้ว และตั้งใจมาจัดการทุกอย่างให้ เพราะป้าติ๋มไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร

ทั้งนี้ ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับจดหมายสั่งเสียที่นางแคทเธอรีนได้เขียนไว้ในไลน์ และพบว่าเจ้าตัวได้ส่งเมล์ไปถึงนายเอ็มมานูเอลด้วย