ช็อก!! เปิดคำสารภาพกระเทยเขมรแสบ อุ้ม น้องมาร์ติน หวังเคลมน้องเป็นลูก แต่…!!

“อาจารย์นพ-ผู้การจ๋อ” ร่วมสอบปากคำ คนงานสาวสอง กรณีอุ้มลักพาตัว “น้องมาร์ติน” อ้างรักและเอ็นดูเด็ก อยากได้ไปเป็นลูก ปฏิเสธไม่ได้เอาไปขาย ตำรวจเอาผิดข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวและพรากผู้เยาว์

กรณีนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พา Mr.INTHAK PEUN (สัญชาติลาว) อายุ 54 ปี ปู่ ของเด็กชายน้องมาร์ติน วัย 9 เดือน เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.อานนท์ กาศไทสง รอง สว.(สอบสวน) สน.บางนา เพื่อขอให้ตำรวจช่วยติดตามตัวนายน้อย (ไม่ทราบชื่อจริง ) อายุ 52 ปี ชาวกัมพูชา บุคลิกคล้ายสาวสอง เป็นคนงานก่อสร้างโบสถ์วัดบางนานอก แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กทม. ทำทีมาขออุ้มน้องมาร์ติน ไปซื้อของกินที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ก่อนสบโอกาสอุ้มหนีหายไปจากซอยท่าน้ำบางนา เมื่อช่วง เวลา 15.14 น. วันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา

ล่าสุดเมื่อเวลา 02.10 น. วันที่ 8 พ.ค. 2567 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พร้อมกำลังควบคุมนายน้อย แสงวัน อายุ 52 ปี สาวประเภทสองชาวกัมพูชา ผู้ต้องหาก่อเหตุลักพาตัวน้องมาร์ติน วัย 9 เดือน จับกุมได้ที่สำนักงานตั๋วรถโดยสารในตำบลมาบตาพุด ถนนสุขุมวิท อ.เมืองระยอง จ.ระยอง ช่วงเวลาประมาณ 22.30 น. วันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาลักพาน้องมาร์ติน วัย 9 เดือน จากจุดเกิดเหตุซอยท่าน้ำบางนา ก่อนไปขึ้นรถตู้โดยสารจากสถานีขนส่งหมอชิตไป จ.ระยอง มาถึง สน.บางนา มี พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. เดินทางมาร่วมสอบสวนด้วย ก่อนนำผู้ต้องหาเข้าห้องสืบสวน ระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม นายน้อย อ้างว่า รักและเอ็นดูเด็กอยากเอาเด็กไปเป็นลูก ปฏิเสธไม่ได้ลักเด็กไปขาย เมื่อถามว่าทำไมถึงไป จ.ระยอง นายน้อยงึมงำพูดไม่ชัด

จากนั้น 02.30 น. ตำรวจอีกชุดของสืบนครบาลนำตัวน้องมาร์ตินมาถึง สน.บางนา ก่อนส่งมอบให้ Mr.INTHAK PEUN (สัญชาติลาว) อายุ 54 ปี ปู่และย่า รีบอุ้มโอบกอดและหอมแก้มหลานด้วยความดีใจ ต่อมาปู่ของเด็กร้องไห้ก้มกราบ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. เพื่อเป็นการขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยที่ช่วยตามหาหลานกลับสู่อ้อมกอด พล.ต.ต.นพศิลป์ รีบนั่งรับไหว้แล้วบอกว่าไม่ต้องกราบ ให้ลุกขึ้น

Mr.INTHAK PEUN ชาวลาว อายุ 54 ปี ปู่ของเด็กกล่าวว่า หลังทราบว่าหลานปลอดภัยแล้ว ดีใจมากที่หลานกลับขึ้นมา ทีแรกกลุ้มใจ ไม่รู้จะไปพึ่งใคร คนในซอยบอกให้ไปแจ้งตำรวจจึงได้มาแจ้งความไว้ ยอมรับว่าตำรวจไทยเก่ง ทีแรกกังวลว่าจะไม่ได้หลานคืน ตนรักหลานคนนี้มาก พ่อแม่ทิ้งไปตั้งแต่เล็กจึงได้นำมาเลี้ยง เคยได้ยินข่าวขโมยเด็กพอเจอกับตัวเองรู้สึกเลย ดีใจมากที่พึ่งตำรวจไทยได้ ตำรวจนำภาพหลานให้ดูหลังจากเจอตัวแล้ว ดีใจมาก

จากนั้น พล.ต.ต.นพศิลป์ และพล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.ร่วมกันสอบปากคำนายน้อยผู้ก่อเหตุ จากการสอบปากคำนายน้อยให้การรับสารภาพว่า ลักพาตัวเด็กไปจริง โดยให้เหตุผลว่า ต้องการนำไปเลี้ยงขณะที่ตัวเองจะไปทำงานที่ จ.จันทบุรี โดยได้ลักพาตัวเด็กไปขึ้นรถตู้โดยสารที่สถานีขนส่งหมอชิตไปลงที่ จ.ระยอง และเตรียมต่อรถไปยัง จ.จันทบุรีในช่วงเช้า

บางช่วงการสอบสวน พล.ต.ต.นพศิลป์ และ พล.ต.ต.ธีรเดช พยายามให้ผู้ก่อเหตุร้องเพลงชาติไทยและเพลงสรรเสริญพระบารมี แต่ผู้ก่อเหตุไม่สามารถร้องได้ แต่ยังยืนยันว่าตัวเองเป็นคนไทย

จากการสืบประวัติเบื้องต้น ไม่พบชื่อผู้ก่อเหตุกล่าวอ้างอยู่ในทะเบียนราษฎร์ แต่ให้การว่า เคยถูกดำเนินคดีในข้อหาเสพยาเสพติดถูกจำคุกที่เรือนจำกลางพิเศษ กรุงเทพมหานคร เบื้องต้นตำรวจอยู่ระหว่างการสืบค้นประวัติ ก่อนนำผู้ต้องหาส่ง ร.ต.ท.อานนท์ กาศไทสง รอง สว.(สอบสวน) สน.บางนา เพื่อดำเนินคดี ข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวและพรากผู้เยาว์ ตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป