ด่วน!! ปิดตำนาน โจ ไบเดน ขอแสดงความเสียใจ

### ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เผชิญแรงกดดันหนัก ประกาศถอนตัวจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา สถานการณ์ทางการเมืองของประธานาธิบดีโจ ไบเดน วัย 81 ปี เริ่มย่ำแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด จากปัญหาสุขภาพและอายุที่สูงขึ้น ทำให้เขาต้องเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนักจากทั้งภายในและภายนอกพรรคเดโมแครตที่เรียกร้องให้เขาถอนตัวจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในปลายปี 2024

ความนิยมของประธานาธิบดีไบเดนลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังการดีเบตเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2567 กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ และผู้สมัครรับเลือกตั้งจากพรรครีพับลิกัน ผลการดีเบตปรากฏว่า ไบเดนแพ้ต่อทรัมป์อย่างขาดลอย ด้วยคะแนนร้อยละ 33 ต่อร้อยละ 67 ซึ่งทำให้เสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับสภาพสุขภาพและความสามารถของเขาในการดำรงตำแหน่งต่อไปเพิ่มมากขึ้น

ความกดดันนี้ไม่เพียงมาจากชาวพรรคเดโมแครตระดับรากหญ้า แต่ยังมาจากผู้นำและบุคคลสำคัญในพรรคเดโมแครต อาทิ นายชัค ชูเมอร์ วุฒิสมาชิกแห่งรัฐนิวยอร์ก นางแนนซี เปโลซี อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร และแม้แต่นายบารัก โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ยังออกมาเรียกร้องให้ไบเดนถอนตัว

นอกจากนี้ กลุ่มทุนที่สนับสนุนพรรคเดโมแครตก็ได้ออกมาเรียกร้องให้ไบเดนถอนตัว โดยมีจำนวนรวมถึง 75 คน ซึ่งสะท้อนถึงการสูญเสียความเชื่อมั่นในตัวของประธานาธิบดีไบเดนในวงกว้าง

จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนชาวอเมริกันที่สนับสนุนพรรคเดโมแครต พบว่าเกือบสองในสามของกลุ่มตัวอย่างต้องการให้ไบเดนถอนตัว โดยมีรายละเอียดว่า ร้อยละ 65 ของชาวเดโมแครตต้องการให้ไบเดนถอนตัว ในขณะที่ร้อยละ 35 ต้องการให้เขาสู้ศึกเลือกตั้งต่อไป ความเห็นนี้แบ่งแยกตามเชื้อชาติ โดยชาวเดโมแครตผิวขาวถึงร้อยละ 67 ต้องการให้ไบเดนถอนตัว ในขณะที่ชาวเดโมแครตผิวสีมีความเห็นแยกออกไปอย่างสูสี โดยร้อยละ 50 อยากให้ไบเดนสู้ต่อ และร้อยละ 49 ต้องการให้เขาถอนตัว

ด้วยกระแสกดดันที่เพิ่มขึ้นอย่างหนัก ประธานาธิบดีไบเดนได้ประกาศถอนตัวจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในที่สุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนหน้าที่พรรคเดโมแครตจะประชุมใหญ่ในนครชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ในระหว่างวันที่ 19-22 สิงหาคมนี้ ซึ่งคาดว่าที่ประชุมใหญ่จะเสนอชื่อนางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีหญิงสหรัฐฯ เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งแทนไบเดน โดยไบเดนได้ประกาศให้การสนับสนุนแฮร์ริสในการชิงชัยครั้งนี้