วันนี้ 27 ก.พ.68 เพจหมอแล็บแพนด้า แจ้งเตือนถึงโรคไข้อีดำอีแดง ระบาดในโรงเรียนบางโรงเรียนต้องหยุดเรียน พร้อมอธิบายว่า ไข้อีดำอีแดง (Scarlet Fever) เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากแบคทีเรีย สเตรปโตคอคคัสชนิดเอ มักจะเจอในเด็กวัยเรียน อายุ 5-15 ปี แบคทีเรียชนิดนึ้สร้างสารพิษได้ ทำให้เกิดผื่นแดงขึ้นตามตัว เชื้อนี้สามารถติดต่อผ่านการไอหรือจาม การสัมผัสสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย น้ำมูก การใช้ของร่วมกัน เช่น ของเล่น หรือข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ
สำหรับอาการของโรคไข้อีดำอีแดง ผู้ป่วยมักจะแสดงอาการภายใน 1 สัปดาห์หลังติดเชื้อ มักมีอาการดังนี้
ไข้สูง
เจ็บคอ อาจมีหนองหรือจุดเลือดออกที่ต่อมทอนซิล
ผื่นแดงสากคล้ายกระดาษทราย เริ่มจากลำตัวและกระจายไปแขนขา มักไม่ขึ้นที่ใบหน้า แต่แก้มจะแดงและมีวงซีดรอบปาก ลิ้นแดงเป็นปุ่มๆ คล้ายสตรอว์เบอร์รี
อาการอื่น ๆ เช่น ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน ต่อมน้ำเหลืองโต หนาวสั่น และปวดท้อง
เนื่องจากเป็นเชื้อแบคทีเรีย รักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ ซึ่งถ้าไม่รักษาอาจเกิดอาการแทรกซ้อน เช่น โรคไข้รูมาติก หรือหน่วยไตอักเสบเฉียบพลันได้ ถ้าพบการระบาดก็ควรให้หยุดเรียนหรือแยกตัวเด็กป่วยออกจากคนอื่นจนกว่าได้ยาปฏิชีวนะไปแล้วอย่างน้อย 24 ชั่วโมง จึงจะไม่แพร่เชื้อให้ผู้อื่นต่อไป
กรณีไข้อีดำอีแดงระบาด วานนี้ (26 ก.พ.68) ศูนย์บริการสาธารณสุข 2 สะพานสาม เทศบาลนครสมุทรปราการ แจ้งไปยังโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ ให้หยุดเรียนเนื่องจากมีการระบาดของโรค พบว่าเด็กนักเรียนหลายชั้นป่วยเป็นโรคไข้อีดำอีแดง เทศบาลจึงประกาศให้หยุดเรียนเพื่อป้องกันการระบาดของโรค ระหว่างนี้ให้ทำความสะอาดล้างห้องเรียนด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ และเปิดเรียนตามปกตืในวันจันทร์ที่ 3 มี.ค.68 ในระหว่างปิดเรียนขอให้ผู้ปกครองช่วยคัดกรอง สังเกตอาการของบุตรหลาน หากมีอาการไข้ เจ็บคอ ลิ้นนูนแดง หรือมีสิ่งบอกเหตุว่าน่าจะติดเชื้อแบคทีเรียให้รีบพาไปพบแพทย์