สวมชุดแบทแมน ช่วยเหลือสัตว์ที่จะถูกการุณยฆาต

ทุกคนที่ใส่ชุดฮีโร่ ไม่ได้เป็นฮีโร่เสมอไป เช่นเดียวกัน คนที่ไม่สวมชุดฮีโร่ ไม่ได้แปลว่าเขาจะไม่ได้เป็นฮีโร่ เพราะฮีโร่อยู่ที่การกระทำไม่ได้ใช่ที่ชุด

เช่นเดียวกับ Chris Van Dorn วัย 27 ปีคนนี้ เขาเป็นคนที่ชื่นชอบแบทแมนมาตั้งแต่เด็กๆ และตอนนี้เขากลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่ของเพื่อนผู้ไม่มีเสียง นั่นก็คือ สัตว์ที่ถูกทิ้งในศูนย์พักพิง

เส้นทางการเป็นฮีโร่เพื่อเพื่อน 4 ขาของ Chris เริ่มต้นขึ้นเมื่อเขาไปเป็นอาสาสมัครให้กับองค์กรช่วยเหลือสัตว์ทั่วออร์แลนโด รัฐฟลอริด้า

Chris ตัดสินใจสวมชุดแบทแมนเพื่อให้ผู้คนให้ความสนใจเกี่ยวกับความสำคัญของการรับเลี้ยงสัตว์ เพราะแบบนี้ เขาจึงถูกขนานนามว่า ฮีโร่ในชีวิตจริง

จริงๆ แล้ว อีกเหตุผลหนึ่งที่ Chris ตัดสินใจใส่ชุดแบทแมน เพราะเขาไม่อยากเปิดเผยตัวตน อย่างไรก็ตาม การกระทำของเขากลายเป็นที่รู้จักทั่วโลก หลังจาทกี่เว็บไซต์ GoFundMe ประกาศว่าเขาเป็นฮีโร่

ต่อมาในปี 2018 Chris ได้เปิด Batman4Paws ซึ่งเป็นองค์กรช่วยเหลือสัตว์ที่ไม่แสวงหาผลกำไร ตั้งแต่นั้นมา เขาก็ออกเดินทางทั่วประเทศเพื่อช่วยสัตว์ที่จะถูกการุณยฆาตและหาบ้านให้พวกมัน

Chris เดินทางทำภารกิจด้วยฮอนด้าแอคคอร์ด แต่เขาหวังว่าจะมีคนใจดีที่สามารถบริจาครถตู้ให้ เพื่อที่เขาจะช่วยเหลือสัตว์ได้มากขึ้น

นอกจากนี้ ฮีโร่ในชีวิตจริงยังหวังว่าใบอนุญาตนักบินของเขา จะช่วยให้เขาเดินทางทางอากาศได้ในสักวันหนึ่ง เพราะนั่นหมายความว่าการขนส่งเพื่อน 4 ขาจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Chris บอกว่า “ตอนเด็กๆ ผมเห็นคุณค่าของฮีโร่ เช่น แบทแมน ซึ่งเป็นตัวละครที่สะท้อนให้เห็นว่าเขาเป็นเรือที่รวบรวมจิตวิญญาณแห่งความปรารถนาดี”

“เพราะแบบนี้ ไอเดีย Batman4Paws จึงบังเกิดขึ้น ผมจะช่วยสัตว์ที่ต้องการความช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้ โดยแต่งตัวเป็นอัศวินรัตติกาลและจะกลายเป็นสัญลักษณ์สำหรับการช่วยเหลือผู้ที่ต้องการ”

เขาบอกอีกว่า “เพื่อให้ฝันของผมเป็นจริง ผมจึงก่อตั้ง Batman4Paws ซึ่งเป็นองค์ที่ไม่แสวงหาผลกำไร เพื่อช่วยเหลือและขนส่งสุนัข แมว และสัตว์อื่นๆ ที่ต้องการบ้าน”

“สำหรับการขนส่งสัตว์เลี้ยงนั้น ผมจะใช้ทุกช่องทางที่แบทแมนอย่างผมจะทำได้ แม้ในความเป็นจริงแล้ว ผมอยากจะบินก็ตาม”

ฮีโร่ในชีวิตจริงคนนี้ได้รับแจ้งเบาะแสผ่านทางช่องทางที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นอีเมลล์ โทรศัพท์ หรือโซเชียลมีเดียต่างๆ

เนื่องจากแบทแมนทำงานในวัยหยุดสุดสัปดาห์ ดังนั้น เขาจึงขนส่งในวันจันทร์ อังคาร และวันพุธ โดยในวันขนส่งนี้ เขาจะเดินทางพร้อมเพื่อน 4 ขา และเอกสารส่วนตัวของพวกมัน

แม้ว่าบางครั้งภารกิจที่ต้องทำนั้นจะอยู่ห่างจากบ้านถึง 800 กิโลเมตร แต่ Chris ก็ยินดีที่จะทำ หากมันเป็นสิ่งที่เขาทำได้เขาพร้อมจะทำโดยไม่เกี่ยง และเขายังคาดหวังว่าจะขยายขอบเขตการช่วยเหลือให้กว้างมากขึ้นในสักวันหนึ่งด้วย

Chris บอกว่า “ผมเข้าใจว่าการช่วยเหลือสัตว์ไม่จำเป็นต้องแต่งกายแบบนี้ก็ได้ แต่ที่ต้องแต่ง เพราะมันช่วยให้ผมได้เปิดบทสนทนาเกี่ยวกับความสำคัญของการร้บเลี้ยงและการอุปถัมภ์ง่ายขึ้น”