>h5
ผู้รอดชีวิตจากเหตุกราดยิงโคราช เล่านาทีติดห้าง ทหารคลั่งเดินตามหาคนซ่อนตัวทุก ๆ ชั้น ไล่ยิงทีละห้อง เปิดเพลงฟังสบายใจ เผยวินาทีหลบหนีเจอสาดกระสุนไล่ตามหลังไม่ยั้ง
/h5>
>h5
ภาพจาก Lillian SUWANRUMPHA / AFP
/h5>
>h5
เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2563 เฟซบุ๊ก Rattiya Peafen Saysที่เผยเรื่องราวขณะติดอยู่ภายในห้างที่ทหารคลั่งกราดยิงที่โคราช โดยระบุว่า วันนั้นคนเยอะมาก เพราะเป็นวันเสาร์และจัดงานมาฆบูชา ระหว่างกำลังเดินไปประตูทางออก พร้อมชานมไข่มุก ที่ซื้อจากชั้น LG และผ้าเช็ดตัวนาโนที่ซื้อจากร้านของ 3 พ่อแม่ลูก นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เราได้ซื้อของกับเขา (ใช่ค่ะ ทั้ง 3 คนขายเครื่องนุ่งห่มอยู่ที่ชั้น LG ถูกผู้ก่อเหตุเจอ และถูกยิงตายทั้งหมด)
/h5>
>h5
ระหว่างถึงทางออก อยู่ ๆ คนที่อยู่ด้านหน้าก็พากันวิ่งเข้ามา ตอนนั้นก็ไม่ได้ตกใจเพราะคิดว่าคงมีอุบัติเหตุ แต่มีพี่ รปภ. วิ่งมาบอก “น้อง !! ไปหาที่หลบ มีคนยิงกัน” (พี่ รปภ. คนนั้น ต่อมาทราบชื่อว่าเป็นนายอำนาจ บุญเกื้อ เป็น 1 ใน ผู้เสียชีวิตเช่นกัน พี่เขาทำหน้าที่จนวินาทีสุดท้ายของชีวิตจริง ๆ หนูจะขยันตื่นเช้ามาทำบุญให้พี่เยอะ ๆ ตอนนั้นถ้าพี่ไม่มาบอก คงเดินออกไปแล้วโดนผู้ก่อเหตุยิงทิ้งไปแล้ว) ระหว่างที่วิ่งมีเสียงตะโกนว่า “ปิดประตู ๆ” ประตูเหล็กของร้านแต่ละร้านเริ่มเลื่อนลง
/h5>
>h5
จังหวะนั้นมีพนักงานร้านกวักมือเรียกให้รีบเข้ามา เราเลยได้เข้าไปหลบที่ร้านเสื้อผ้ายี่ห้อหนึ่ง มีคนหลบอยู่ 3 คน เวลา 18.50 น. ข่าวเริ่มออก และแม่โทร. มา เราบอกว่า “หนูปลอดภัย ไม่ต้องห่วง อยู่กับพี่ ๆ อีก 2 คน แม่ใจเย็น ๆ นะ เดี๋ยวเจ้าหน้าที่ก็มาช่วยแล้ว” พูดไปโดยที่ไม่ทราบเลยว่าจะมีคนมาช่วยมั้ย พี่ ๆ ที่อยู่กับเราเริ่มโทรหา 191 (สายไม่ว่าง) เราก็พยายามดูโซเชียลว่ามีเบอร์ติดต่อช่องทางไหนอีกบ้าง จนมาเจอโพสต์ของจ่า เราเลยโพสต์ขอความช่วยเหลือทางคอมเม้นต์
/h5>
>h5
หลังจากนั้นหนักกว่าเดิม นักข่าวช่อง…Inbox จะโทร. มาขอสัมภาษณ์ คนในโซเชียลเริ่มติดต่อเข้ามาให้ความช่วยเหลือว่าควรทำตัวยังไง เราบอกว่าเราอยู่หลังประตูเหล็ก พี่ใน Inbox คนหนึ่งแนะนำว่าให้หมอบและถอยออกจากประตูเหล็กให้มากที่สุด เพราะมันเสี่ยงสูงที่ผู้ก่อเหตุจะยิงทะลุเข้ามา และให้ปิดไฟ หรี่แสงไฟทางโทรศัพท์ให้มืดที่สุด อยู่ให้เงียบที่สุด อย่าเคลื่อนย้ายไปไหน เพราะอาจไปจ๊ะเอ๋กับผู้ก่อเหตุได้
/h5>
>h5
หลังจากได้รับคำแนะนำ เรากับพี่ ๆ เริ่มเคลื่อนย้ายตัวเอง เข้าไปด้านในโกดังร้าน แต่ในโกดังแคบและเล็กมาก ยิ่งพอรู้สึกกลัว ตกใจ มันหายใจแรงขึ้น ถี่ขึ้น นั่งแย่งอากาศกันอยู่ 3 คน เหมือนอากาศเริ่มถ่ายเทไม่สะดวก ตอนนั้นเริ่มคิดว่าถ้าเป็นแบบนี้ยังไงก็ต้องหาที่ซ่อนที่อื่น ๆ เราติดต่อเจ้าหน้าที่ตามเบอร์ที่จ่าโพสต์ เจ้าหน้าที่ให้ส่งเบอร์โทร. ที่อยู่ และคุยผ่านทาง Inbox เพื่อป้องกันผู้ก่อเหตุได้ยินเสียง สถานการณ์ตอนนั้นคือ ทั้งห้างเงียบมากกกกก เงียบจนได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้น จะขยับตัวหรือทำอะไร ต้องเบาให้มากที่สุด แถมมีเสียงปืนดังเป็นระยะ ๆ ประมาณ 4-5 นัด
/h5>
>h5
ภาพจาก Lillian SUWANRUMPHA / AFP
/h5>
>h5
ระหว่างรอเจ้าหน้าที่เป็นช่วงที่ทรมานและลุ้นระทึกที่สุด ในข่าวออกว่าผู้ก่อเหตุอยู่ชั้น 4 แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย เขาเดินตามหาคนซ่อนตัวทุก ๆ ชั้น ตั้งแต่ชั้นใต้ดินจนถึงชั้น 4 แล้วก็เดินวนกลับมาใหม่ ทุกครั้งที่เขาเดินจะมีเสียงฝีเท้าหนัก ๆ พร้อมกับเสียงดนตรีในโทรศัพท์ แต่มันช่วยให้เราทราบว่าตอนนี้เขาเดินอยู่ตรงไหน อยู่ใกล้หรืออยู่ไกล ผู้ก่อเหตุเดินผ่านร้านที่เราซ่อนตัวอยู่ 2-3 ครั้ง ภาวนาอย่าให้เขาหยุดตรงนี้ 2 ครั้งแรกเขาเดินผ่านไปเหมือนหาคนซ่อนตัว แต่ในครั้งที่ 3 ได้ยินเสียงตะโกนว่า “นั่ง !!!!” แล้วตามด้วยเสียงปืน ปัง ๆ ๆ ประมาณ 3-4 นัด ตอนนั้นภาวนาว่า เสียงนั้นอย่าให้เป็นเสียงยิงคน สุดท้ายก็ทราบว่า เสียงนั้นผู้ก่อเหตุเจอคนซ่อนตัวอยู่ เขาสั่งให้ออกมาแล้วยิงทิ้งตรงนั้นเลย 2 ศพในชั้น G
/h5>
>h5
เราซ่อนตัวเรื่อย ๆ รอเจ้าหน้ามารับ นั่งพิมพ์เอกสารระบุธุรกรรมทางการเงิน หากเป็นอะไรไป พ่อกับแม่จะได้ทราบและเอาไว้ใช้ได้ ตอนนั้นสิ้นหวังมาก เพราะผู้ก่อเหตุเริ่มยิงประตูเหล็ก หาคนที่ซ่อนตัว กลัวมากว่าจะมาถึงประตูเรา แบตก็ใกล้จะหมด ผู้ก่อเหตุก็คึกมาก เดินขึ้นลงตลอด ไม่มีหยุด ไม่มีใครกล้าออกไปจากที่ซ่อนของตัวเองเลย เป็นเวลาที่ยาวนานมาก
/h5>
>h5
21.00 น. เจ้าหน้าที่ยังไม่มารับ ห้องข้างในเริ่มร้อน เหมือนหายใจไม่ออก แต่ก็ออกไปไม่ได้ คิดในใจว่าจะตายเพราะกระสุน หรือ จะตายเพราะอากาศ พี่พนักงานเริ่มตัวสั่นและน้ำตาคลอ คือ ตอนนั้นแต่ละคนเริ่มนั่งไม่ติดแล้วล่ะ เพราะตามจากโซเชียลคือ สถานการณ์เลวร้ายมากกก จับมือและมองหน้ากัน ช่วยกันปลอบ เพราะใช้เสียงไม่ได้ เจ้าหน้าที่ยังที่ไม่มา เสียงปืนภายในห้างยังดังเป็นระยะ ผู้ก่อเหตุเริ่มทราบว่า มีหลายคนที่หลบอยู่หลังประตูเหล็ก เขาเริ่มยิงใส่ประตูเหล็กเรื่อย ๆ เป็นระยะ ๆ และตะโกนว่า “มีใครอยู่มั้ย” โดยเฉพาะในชั้น LG ได้ยินถี่มาก สุดท้ายทราบว่า เขายิงประตูเหล็ก เพื่อลากคนด้านในออกมายิง ชั้น LG กับ ชั้น G มีคนเสียชีวิตเยอะมาก
/h5>
>h5
21.10 เจ้าหน้าที่ติดต่อเข้ามาจะเข้ามารับตัว เราส่งพิกัดร้านไปให้ในใจคิดว่า รอดแล้ว ๆ ๆ หลังจากนั้นประมาณ 5 นาที ได้ยินเสียงประตูเหล็กล็อกอื่น ๆ เริ่มเลื่อนขึ้น เรากับพี่ ๆ มองหน้ากันว่าเอาไงดี จะออกไปดูดีมั้ย แต่อีกใจคิดว่าถ้าชะโงกหน้าไป แล้วจ๊ะเอ๋กับผู้ก่อเหตุคือ ไม่รอดแน่ ๆ เจ้าหน้าที่ติดต่อเข้ามาอีกครั้งสั่งว่า อยู่หน้าประตูเหล็กแล้ว รีบออกมาด่วน เรากับพี่ชะโงกหน้าออกไป สรุปเป็นเจ้าหน้าที่จริง ๆ เขาให้พวกเราอยู่ตรงกลาง แล้วล้อมเอาไว้ ก่อนเดินไปเขาสั่งให้เราปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด “หมอบ” “วิ่ง” และ “ถ้าเกิดอะไร ห้ามหยุด ห้ามนิ่ง วิ่งอย่างเดียว ถ้าเห็นใครโดนยิง ไม่ต้องช่วย เอาตัวเองให้รอดก่อน” ทันทีที่เริ่มอพยพทุกอย่างก็ชัตดาวน์ ไฟดับ พรึ่บ ! เจ้าหน้าที่ตะโกนว่า “วิ่งงงง”
/h5>
>h5
เสียงปืนจากด้านบน ไล่หลังพวกเรามาเลย เจ้าหน้าที่ก็ตะโกน วิ่ง ๆ ๆ ๆ หมอบ ๆ ๆ ๆ วิ่งไปแบบมืด ๆ มีเพียงแสงไฟจากอุปกรณ์ของเจ้าหน้าที่ช่วยนำทาง ผู้ก่อเหตุสาดกระสุนลงมาแบบไม่ยั้ง พวกเราวิ่งไปในความมืดภายในห้างเรื่อย ๆ จนออกมาจากประตูด้านหลัง ยังมีเสียงปืนดังภายในห้างอยู่ มีเจ้าหน้าที่คอยรับอยู่ด้านนอก ตรวจสอบความเรียบร้อยว่ากลับมาได้ครบมั้ย มีใครตายกลางทางหรือเปล่า มีใครได้รับบาดเจ็บมั้ย สรุป ชุดแรกที่เข้าไปรับ รอดกลับมาทุกคน แต่ยังไม่จบต้องวิ่งต่อจากประตูด้านหลังอ้อมออกมาจนถึงหน้า BigC พอวิ่งมาขึ้นรถที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้รอรับ ตอนที่ขับออกมา เจ้าหน้าที่ช่วยมาได้อีก 1 ชุด แต่ชุดนั้นผู้ก่อเหตุต้องการหนีออกมาด้วย เลยกราดยิงออกมาด้านหน้า เจ้าหน้าที่ตะโกนให้หมอบ
/h5>
>h5
ภาพจาก LILLIAN SUWANRUMPHA / AFP
/h5>
>h5
จนหลุดพ้นออกมาจากตรงนั้นได้ เรากลับมาบ้าน แม่มายืนหน้าประตู แม่วิ่งเข้ามากอด ร้องไห้เลย สิ่งที่ดูและเห็นว่าสนุกภายในหนัง สถานการณ์จริง ๆ มันไม่ใช่เลย ลุ้นทุกนาทีว่า ผู้ก่อเหตุจะยิงเข้ามาเมื่อไร เขาจะเจอเรามั้ย เราจะรอดมั้ย มันน่ากลัวมากก โดยเฉพาะตอนเขาเดินผ่าน แทบกลั้นหายใจ เราทราบจากเจ้าหน้าที่ว่า เราเป็นชุดแรกที่เขาเข้าไปช่วย และเป็นช่วงแรกของเหตุการณ์นี้ที่เริ่มปะทะกับผู้ก่อเหตุ และผู้ก่อเหตุเริ่มรู้ตัวแล้วว่า เจ้าหน้าที่แอบเข้ามาเพื่อนำคนออกไป ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เสี่ยงชีวิตมาช่วยเรา ขอบคุณพี่อำนาจที่ช่วยเราแบบไม่คิดชีวิต หลับให้สบายนะคะ
/h5>
>h5
ที่มา https://hilight.kapook.com/view/199884
/h5>