กองปราบปราม เผยปฏิบัติการสยบคนร้าย ตัวประกันใช้เฟซบุ๊กชี้เป้า จ่าอยู่ชั้น LG

>h5

ผู้บังคับการปราบปราบ เปิดปฏิบัติการระงับเหตุ จ.ส.อ. จักรพันธ์ กราดยิงโคราช ก่อนถูกจับตายในเวลาต่อมา เผยใช้สื่อเฟซบุ๊กเป็นเครื่องมือ ให้ประชาชนที่ติดอยู่ในห้างแจ้งที่หลบซ่อน นำมาซึ่งการช่วยเหลือจนปลอดภัย

/h5>

>h5

เมื่อวานนี้ (9 กุมภาพันธ์ 2563) มีรายงานว่า พล.ต.ต. จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยถึงปฏิบัติการระงับเหตุ กราดยิงโคราช ว่า ปฏิบัติการในครั้งนี้มีการสนธิกำลังของ 4 ชุดเฉพาะกิจ ประกอบด้วย หน่วยหนุมาน, กองบังคับการปราบปราม, หน่วยคอมมานโด, กองบังคับการตำรวจราชวัลภลรักษาพระองค์ 904, หน่วยอรินทราช 26 กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ และหน่วยนเรศวร 261

/h5>

>h5

ภารกิจแรก คือ การอพยพคนที่อยู่ภายในห้าง Terminal 21 ออกมาให้ได้มากที่สุด เปิดปฏิบัติการนำทัพ โดย พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำกำลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าไปในพื้นที่ตั้งแต่เวลา 21.00 น. แบ่งกำลังบล็อกบริเวณบันไดเลื่อน 3 จุด และบันไดหนีไฟ 2 จุด นอกจากนี้ ยังแบ่งกำลังล้อมรอบประตูภายนอก โดยเฉพาะบริเวณชั้น LG ที่ มีทางออกไปนอกห้างได้

/h5>

>h5

จากนั้น กำลังตำรวจได้ทยอยนำคนที่ยังติดอยู่บริเวณชั้นต่าง ๆ ของห้างกว่า 1,000 คน ออกมาด้านนอก ขณะที่บางคน ซ่อนตัวอยู่ตามจุดต่าง ๆ ซึ่งกองปราบปรามได้พยายามประชาสัมพันธ์ให้คนที่ยังติดอยู่ส่งข้อความเข้ามาในเพจเฟซบุ๊กของกองปราบปราม หรือโทรศัพท์แจ้งเข้ามาว่าหลบซ่อนตัวอยู่บริเวณใด ก็จะจัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปรับ ตลอดระยะเวลาที่มีการประชาสัมพันธ์ ตลอดทั้งคืน มีประชาชน แจ้งข้อมูลผ่านเพจเฟซบุ๊กของกองปราบปราม และโทรศัพท์มาที่สายด่วน กองปราบปราม 1195 เป็นจำนวนมาก

/h5>

>h5

จากนั้นเวลาประมาณ 02.30 น. มีการปะทะกันในรอบแรก คนร้ายได้ยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ จึงมีการยิงสวนเข้าไป และเจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่า คนร้ายน่าจะเก็บตัวประกันไว้บางส่วน

/h5>

>h5

หลังจากสถานการณ์การยิงปะทะคลี่คลายลง เสียงปืนเงียบไป เจ้าหน้าที่ยังคงกระชับพื้นที่ เพื่อตามหาตัวคนร้ายว่าอยู่บริเวณใด จากนั้นได้มีคนติดต่อทางเฟซบุ๊กของกองปราบปราม โดยอ้างว่าถูกคนร้ายจับกุมตัวอยู่ในห้องเย็นของชั้น LG ไม่มีอากาศหายใจและอากาศกำลังจะหมด

/h5>

>h5

ในช่วงแรกเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะคิดว่า คนร้ายอาจจะใช้เฟซบุ๊กของตัวประกันในการหลอกติดต่อเจ้าหน้าที่ แต่ในช่วงเวลานั้น เจ้าหน้าที่ต้องเสี่ยงเข้าไปยังห้องเย็น เพราะคิดว่าตัวประกันออกมาเกือบหมดแล้ว ความเสี่ยงในการสูญเสีย ก็จะน้อยลง

/h5>

>h5

ปฏิบัติการจู่โจมภายในห้องเย็น จึงเกิดขึ้นในช่วงเช้าตรู่ ของวันที่ 9 กุมภาพันธ์ โดยมีเป้าหมายจับตาย เพราะนาทีนั้น คนร้ายยังคงยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่และไม่มีท่าทีที่จะยอมจำนน กระทั่งสถานการณ์สงบ ก็พบว่าคนร้ายถูกยิงเสียชีวิต และเมื่อตรวจสอบภายในห้องดังกล่าว พบว่ายังมีผู้เสียชีวิตอีก 2 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่า ถูกคนร้ายยิงไว้ ก่อนที่จะเปิดปฏิบัติการบุกห้องเย็น เพราะพฤติกรรมของคนร้ายรายนี้มีลักษณะกราดยิงไปตามห้องต่าง ๆ ภายในชั้น LG

/h5>

>h5

พ.ต.อ. วิจักขณ์ ตามรมย์ ผู้กำกับการกองสนับสนุน กองปราบปราม (ผกก.สสน.บก.ป.) หน่วยหนุมาน กล่าวถึง กรณีมีข่าว ออกมาว่า ส.ต.ต. รัฐธรรมนูญ ทองนา ผบ.หมู่.กก.สสน.บก.ป. ถูกยิงบาดเจ็บที่ขาซ้ายว่า แท้จริงแล้วไม่ได้ถูกกระสุนปืนโดยตรงแต่อย่างไร แต่โดนแค่สะเก็ดลูกปืนเท่านั้น หลังจากกลับไปที่กรุงเทพฯ แล้วจะส่งตัวไปเอกซเรย์รักษาแผลอีกครั้ง

/h5>

>h5

สำหรับเหตุการณ์ที่ ส.ต.ต. รัฐธรรมนูญ โดนนั้น เป็นช่วงปะทะกันกับคนร้ายรอบดึกประมาณตี 2 กว่า ๆ หน่วยกำลังผสมหลายหน่วย ได้รวมกันไปที่ชั้น LG และเกิดมีการปะทะยิงกันกับคนร้ายที่หลบซ่อนอยู่ จนทำให้ ร.ต.อ. ตระกูล ทาอาษา ผบหมวด (สบ.1) กองร้อยปฏิบัติการที่ 2 กก.ต่อต้านการก่อการร้าย บก.สปพ. (อรินทราราช) ที่อยู่ด้านหน้า เกิดยิงปะทะกับคนร้าย รวมทั้ง ส.ต.ต. รัฐธรรมนูญ ยิงปะทะกับคนร้ายอยู่ด้วย เมื่อเห็น ร.ต.อ. ตระกูล ถูกยิง ส.ต.ต. รัฐธรรมนูญ จึงได้เข้าไปลากตัวออกมาจากจุดเสี่ยง จนทำให้ถูกสะเก็ดกระสุนปืนเข้าที่ขาซ้าย ไม่ได้เป็นอะไรมาก

/h5>

>h5

ทั้งนี้ หลังจากที่กองปราบปราม เปิดช่องทางติดต่อทั้งเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ไลน์ และเบอร์โทรศัพท์สายด่วน 1195 ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่แอบหลบซ่อนตัวอยู่ภายในห้างได้ทราบช่องทางต่าง ๆ แล้ว ปรากฏว่ามีประชาชนจำนวนมากที่หลบซ่อนอยู่ในจุดห้าง ๆ ติดต่อให้กองปราบปรามทราบจำนวนมาก หลังได้รับข้อมูลเจ้าหน้าที่ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ส่งกำลังหน่วยปฏิบัติการพิเศษต่าง ๆ เข้าไปช่วยเหลือนำตัวออกมาจากที่ซ่อนตามชั้นต่าง ๆ ได้จำนวนมาก

/h5>

>h5

ที่มา https://hilight.kapook.com/view/199885

/h5>