ชาวเน็ตหัวครีเอต พากันแต่งประโยคจากโควตเด็ด ผบ.ทบ. วินาทีที่…

>h5

ยอมใจชาวเน็ตไทย พากันแต่งประโยคจากโควตเด็ด พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. วินาทีที่ลั่นไก เปลี่ยนเป็นวินาทีอื่น ๆ ที่แสนครีเอต เป็นยังไง ต้องดู

/h5>

Royal Thai Army Commander-in-Chief Apirat Kongsompong reacts during a press conference in Bangkok on February 11, 2020, after a mass shooting incident in Nakhon Ratchasima over the weekend. – An emotional Apirat on February 11 urged a nation in mourning over a mass shooting “not to blame the army” after a soldier gunned down at least 29 people in a rampage linked to a debt dispute with a senior officer. (Photo by Patipat JANTHONG / THAI NEWS PIX / AFP)

>h5

ภาพจาก Patipat JANTHONG/THAI NEWS PIX/AFP

/h5>

>h5

จากกรณีที่พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก แถลงข่าวกรณีคนร้ายก่อเหตุสังหารประชาชนภายในห้างเทอร์มินอล 21 จนมีผู้เสียชีวิตกว่า 30 คน ว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว ตนเองในฐานะผู้บัญชาการทหารบก ขอแสดงความเสียใจ จากการที่มีกำลังพลทหารบกก่อเหตุดังกล่าวขึ้น และเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ โดยจากถ้อยแถลงของ พลเอก อภิรัชต์ มีประโยคหนึ่งที่ระบุถึงคนร้ายว่า “วินาทีที่ลั่นไกสังหารประชาชน เขาคืออาชญากร ไม่ใช่ทหารอีกต่อไปแล้ว”

/h5>

>h5

อ่านข่าว : ผบ.ทบ. ปาดน้ำตากลางวงสื่อ แถลงข่าว กราดยิงโคราช พร้อมแจงเหตุ ทำไมทหารไม่ลุย

/h5>

Royal Thai Army Commander-in-Chief Apirat Kongsompong reacts during a press conference in Bangkok on February 11, 2020, after a mass shooting incident in Nakhon Ratchasima over the weekend. – An emotional Apirat on February 11 urged a nation in mourning over a mass shooting “not to blame the army” after a soldier gunned down at least 29 people in a rampage linked to a debt dispute with a senior officer. (Photo by Patipat JANTHONG / THAI NEWS PIX / AFP)

>h5

ภาพจาก Patipat JANTHONG/THAI NEWS PIX/AFP

/h5>

>h5

ล่าสุด (11 กุมภาพันธ์ 2563) หลังจากที่ พลเอก อภิรัชต์ พูดประโยคดังกล่าวจบ ก็กลายเป็นกระแสไวรัลในโซเชียล ชาวเน็ตต่างพากันนำประโยค “วินาที” มาแต่งกันใหม่ เรียกได้ว่าฮากันทั้งโซเชียล จะครีเอตขนาดไหน มาดูกัน

/h5>

>h5

ที่มา https://hilight.kapook.com/view/199949

/h5>