เหมือนจะเป็นไข้ กินยาดักไว้ก่อนป่วย ช่วยได้ไหม ?

>h5

ช่วงนี้อากาศแปรปรวนหนักมาก หลายคนเริ่มจะปวดหัวเบา ๆ จามบ่อย ๆ จึงกินยาดักไว้ก่อน แต่รู้หรือไม่ ว่าการกินยาดักไข้ ไม่ได้ช่วยป้องกันเราจากอาการป่วยต่าง ๆ แถมยังอาจส่งผลอันตรายได้อีกด้วย

/h5>

>h5

เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะเคยได้ยินหรือมีความเชื่อเรื่องการกินยาดักไว้ ก่อนที่จะเป็นไข้ โดยคิดว่ายาช่วยป้องกันไข้หวัดได้ หรือถึงป้องกันไม่ได้ แต่การกินยาเพื่อให้มีเกราะป้องกันบ้าง ก็ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย ทว่าลืมคิดไปหรือเปล่าคะว่า ยาทุกชนิดมีผลข้างเคียงเสมอ แล้วอย่างนี้หากรู้สึกเหมือนจะไม่สบาย กินยาดักไว้จะดีจริง ๆ เหรอ ?

/h5>

>h5

อ้อ ! และที่สำคัญก็อยากอธิบายให้ทุกคนเข้าใจตรงกันด้วยค่ะว่า ไข้หวัดที่เราเป็นกันทุกวันนี้มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัส ซึ่งสามารถรักษาให้หายได้โดยภูมิต้านทานของเราเอง แล้วอย่างนี้การกินยาดักไว้ก่อน ยังจะช่วยป้องกันไข้ได้ไหม มาดูคำตอบกันค่ะ

/h5>

>h5

รู้สึกเหมือนจะเป็นไข้ กินยาดักไว้ก่อน ช่วยได้ไหม ?

/h5>

>h5

การกินยาพาราเซตามอลหรือยาแก้ไข้ต่าง ๆ เป็นการรักษาอาการปวด ลดไข้ ลดอาการคัดจมูก ไม่ได้มีฤทธิ์ป้องกันอาการป่วยเลย ดังนั้นการกินยาดักไข้จึงไม่สามารถช่วยให้ไม่เป็นไข้ได้ แถมยาทุกชนิดมีผลข้างเคียงเสมอ ถ้ากินบ่อย ๆ นาน ๆ เข้า อาจทำให้ได้รับยาเกินขนาด โดยเฉพาะยาพาราเซตามอล ขนาด 500 มิลลิกรัม หากกินยาดักไข้เกินวันละ 8 เม็ด ติดต่อกันเกิน 5 วัน ก็จะส่งผลให้ตับต้องทำงานหนัก เซลล์ตับถูกทำลาย จนอาจเกิดอาการตับอักเสบและตับวายได้ ที่สำคัญอาการป่วยที่เราเป็นกันส่วนมากมีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัส ซึ่งสามารถรักษาได้โดยภูมิต้านทานของเราเอง ดังนั้นก็ยิ่งไม่จำเป็นต้องกินยาดักไข้ไว้ก่อนในทุกกรณีค่ะ

/h5>

>h5

เหมือนจะป่วย ทำไงดี ?

/h5>

>h5

ถึงไม่สามารถกินยาเพื่อป้องกันอาการป่วยได้ แต่เมื่อรู้สึกเหมือนจะป่วย ลองทำตามวิธีเหล่านี้ ก็ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นได้ค่ะ

/h5>

>h5

1. ดื่มน้ำเปล่าหรือน้ำผลไม้

/h5>

>h5

การดื่มน้ำเยอะ ๆ สามารถช่วยลดอาการเจ็บคอ และคัดจมูกได้

/h5>

>h5

2. น้ำเกลือเจือจางก็ป้องกันหวัดได้

/h5>

>h5

ในกรณีที่รู้สึกเจ็บคอเหมือนจะไม่สบาย มีการศึกษาจำนวนไม่น้อยพบว่าการบ้วนปากด้วยน้ำเกลืออุ่น ๆ โดยนำน้ำอุ่นหนึ่งแก้ว เติมเกลือลงไปครึ่งช้อนชา คนจนละลาย แล้วใช้กลั้วคอ จะช่วยลดอาการบวมในลำคอ ละลายเสมหะ และบรรเทาอาการระคายเคืองในลำคอของเราได้ เพราะเกลือมีคุณสมบัติช่วยต้านแบคทีเรียค่ะ

/h5>

>h5

3. กินวิตามินซีสิ

/h5>

>h5

วิตามินซีช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันของเราให้ดีขึ้นได้ ดังนั้นถ้าจะเป็นหวัดกินวิตามินซีกันไว้ก่อนก็ช่วยได้ค่ะ

/h5>

>h5

– วิตามินซี กินตอนไหน ร่างกายได้ประโยชน์เต็ม ๆ

/h5>

>h5

4. ฟ้าทะลายโจรช่วยได้

/h5>

>h5

ฟ้าทะลายโจรเป็นสมุนไพรที่ขึ้นชื่อเรื่องต้านหวัดอยู่แล้ว แต่ถ้าใครกลัวขมก็ไปใช้ฟ้าทะลายโจรชนิดแคปซูลก็ได้ ดูวิธีใช้ได้ที่ ฟ้าทะลายโจร สมุนไพรต้านหวัด

/h5>

>h5

5. นอนพักซะ !

/h5>

>h5

วิธีสุดท้ายคือการนอนพักค่ะ เพราะการนอนจะช่วยทำให้ร่างกายผ่อนคลาย หายเมื่อย เพลียและอ่อนล้าได้

/h5>

>h5

ถ้าไม่สบายแล้ว ทำยังไงดี กินอะไรดี ?

/h5>

>h5

ถ้าไม่สบายจริง ๆ ขอแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อได้รับการรักษาที่ถูกต้อง หรือหากไม่สะดวกอย่างน้อยก็ควรปรึกษาเภสัชกรว่าต้องกินยารักษาอาการไข้หวัดอย่างไร ทว่าหากอาการไม่ได้รุนแรงมากนัก จะลองรับประทานอาหารอ่อน ๆ ดื่มน้ำอุ่น งดน้ำเย็น และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอดูก่อนก็ได้นะคะ หรือจะลองบรรเทาอาการหวัดด้วยตัวเองตามนี้

/h5>

>h5

– หายป่วยไว ปราบไข้หวัดให้ชะงัด แค่กิน !

/h5>

>h5

– ป่วยเป็นหวัด ใช้ยาอะไรดี

/h5>

>h5

แต่หากอาการยังไม่ดีขึ้น แนะนำให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วนเลยนะคะ

/h5>

>h5

ถึงแม้เมื่อป่วยแล้วจะกินยารักษาได้ แต่อย่างไรก็ตามไม่ป่วยเลยน่าจะดีที่สุด ดังนั้นเราจึงควรดูแลร่างกายให้แข็งแรงเข้าไว้ หรือจะป้องกันตัวเองด้วยวิธีต่าง ๆ ตามนี้ก็ได้ค่ะ

/h5>

>h5

– 20 วิธีป้องกันหวัด เสริมสุขภาพให้ดีเยี่ยม เลี่ยงป่วยได้ง่าย ๆ

>h5

ที่มา https://health.kapook.com/view176926.html

/h5>