สมาคมโรงพยาบาลเอกชน เผย หน้ากากอนามัยขาดแคลน บางที่ไม่มีใช้ วอนรัฐช่วยด่วน

สมาคมโรงพยาบาลเอกชน วอนรัฐจัดสรรหน้ากากอนามัยให้ หลังประกาศเป็นสินค้าควบคุม หวั่นเกิดการแพร่เชื้อกระทบต่อวงกว้าง


วันที่ 1 มีนาคม 2563 มีการเปิดเผยหนังสือของ สมาคมโรงพยาบาลเอกชน ลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 ถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง โรงพยาบาลเอกชนประสบปัญหาขาดแคลนหน้ากากอนามัยสำหรับใช้ป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 ในขั้นวิกฤต โดยมีเนื้อหา ดังนี้

เนื่องจากการระบาดของโรคอุบัติใหม่ โรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ทางกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ให้โรงพยาบาลเอกชนทุกแห่งเตรียมการรับสถานการณ์ที่อาจจะมีการระบาดในวงกว้างขึ้น โรงพยาบาลเอกชนมีการรับคนไข้ที่มีความเสี่ยงมากกว่าร้อยละ 70 ในโรงพยาบาล

แต่ปัจจุบันโรงพยาบาลเอกชนประสบปัญหาขาดแคลนหน้ากากอนามัยเข้าขั้นวิกฤต และโรงพยาบาลเอกชนบางแห่งไม่มีหน้ากากอนามัยใช้แล้ว บุคลากรทางการแพทย์ต้องใช้หน้ากากผ้าซึ่งมีความเสี่ยงมาก ทางโรงพยาบาลเอกชนทุกแห่งไม่สามารถจัดซื้อจัดหาหน้ากากอนามัยได้ เพราะกรมการค้าภายในได้ประกาศให้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุม และโรงงานผู้ผลิตต้องจัดส่งให้กับกรมการค้าภายในเท่านั้น ไม่สามารถจำหน่ายให้โรงพยาบาลเอกชนได้ โรงพยาบาลเอกชนได้ติดต่อขอซื้อหน้ากากอนามัยจากกรมการค้าภายใน แต่ได้รับคำตอบว่าให้แจ้งเข้าไปเพื่อเข้าระบบการรอคิว

หนังสือดังกล่าวระบุด้วยว่า หากไม่มีหน้ากากอนามัยให้กับบุคลากรทางการแพทย์และคนไข้ที่มีความเสี่ยงในการติดโรคในโรงพยาบาลเอกชน อาจเกิดผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้างและร้ายแรงมากขึ้น และจะไม่สามารถควบคุมการระบาดของโรคได้

สมาคมโรงพยาบาลเอกชนในฐานะผู้แทนของโรงพยาบาลเอกชนจำนวน 250 แห่งทั่วประเทศ จึงได้ทำการสำรวจจำนวนหน้ากากอนามัยขั้นต่ำที่ต้องการใช้ในแต่ละวัน และขอความอนุเคราะห์ได้โปรดจัดสรรหน้ากากอนามัยให้กับโรงพยาบาลเอกชน เพื่อที่โรงพยาบาลเอกชนจะสามารถควบคุมป้องกันไม่ให้มีการระบาดมากกว่านี้ หรือให้โรงพยาบาลเอกชนสามารถจัดซื้อจัดหาจากที่ใดเพื่อให้มีใช้ได้ โดยประสานงานกับทางสมาคม เพื่อให้ปันส่วนให้โรงพยาบาลเอกชนได้เท่ากันอย่างเพียงพอ




ที่มา https://hilight.kapook.com/view/200737