เมื่อความสัมพันธ์จบสิ้นลง คนเรามักโทษอีกฝ่ายหนึ่งว่าเป็นคนที่ทำให้จบลงอย่างไม่ดีเท่าไหร่นัก แต่ความสัมพันธ์เป็นสิ่งที่คนสองคนสร้างขึ้นมาด้วยกัน จึงมีโอกาสน้อยมากที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเป็นผู้ทำลายมันแต่เพียงผู้เดียว
จุดสิ้นสุดของความสัมพันธ์มักไม่ได้เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งเท่านั้น แต่เป็นผลมาจากหลายๆ เรื่องราวความขัดแย้งเล็กๆ น้อยๆ ที่เมื่อสะสมเป็นเวลานานเข้าก็กลายเป็นปัญหาใหญ่ อย่างเช่นพฤติกรรมต่อไปนี้
การติดสมาร์ทโฟนก็ทำให้ความสัมพันธ์ร้าวฉานได้ เพราะทำให้เราละเลยและไม่ใส่ใจคนที่เรารัก ทำให้มีเวลาให้กันน้อยลง และยังทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา จึงควรหากิจกรรมอื่นมาแทนที่อย่างเช่นการฟังเพลงหรืออ่านหนังสือ
การบริหารจัดการเวลาไม่เป็นก็ทำให้ความสัมพันธ์จืดจางลงได้ เพราะเราทุกคนล้วนต้องการใช้เวลาร่วมกับคนที่เรารัก จึงควรบริหารจัดการเวลาให้ดีและแบ่งเวลาสำหรับการทำงาน เวลาของตัวเอง และเวลาของคนรักให้เหมาะสม
การแสดงความใสใจในเรื่องเล็กน้อยๆ การขอบคุณ ขอโทษ หรือสนับสนุนคนที่เรารักนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่มันกลับเป็นสิ่งที่หลายคนมักมองข้ามไป จนอาจกลายเป็นการทำร้ายจิตใจของคนที่เรารักได้ในที่สุด
หลายคนมักถามไถ่อารมณ์ความรู้สึกหรือเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของคนรอบข้างตามมารยาทเท่านั้น ซึ่งมันยิ่งทำให้รู้สึกห่างเหินกันมากขึ้น จึงควรถามไถ่พวกเขาด้วยความเป็นห่วงเป็นใยและคอยรับฟังเรื่องราวต่างๆ อย่างตั้งใจจริง
คนเรามักคาดหวังให้คนรอบข้างเป็นไปอย่างที่เราต้องการจนเผลอโกรธหรือหงุดหงิดใส่คนเหล่านั้นบ่อยๆ ทั้งๆ ที่เรารักพวกเขาในแบบที่เป็น จึงไม่ควรใส่ความคาดหวังของตัวเองลงไปในตัวผู้อื่นมากเกินไปนัก
เมื่อมีปัญหาหลายคนมักพยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับมันโดยตรง ซึ่งไม่ได้ช่วยให้ปัญหาคลี่คลายและยังทำให้ความขุ่นข้องหมองใจสะสมมากขึ้นไปอีก ดังนั้นเมื่อมีปัญหาจึงควรพูดคุยกันด้วยเหตุผลและแก้ไขไปทีละเรื่อง
ความเชื่อใจเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับความสัมพันธ์ เพราะถ้าหากไม่เชื่อใจกันแล้วก็จะทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อทั้งคนที่เป็นฝ่ายระแวงเองหรือคนที่เป็นฝ่ายถูกระแวงด้วยเช่นกัน