ฝรั่งเศส ประกาศปิดพรมแดน ห้ามออกที่พักโดยไม่จำเป็น ทุ่ม 10.6 ล้านล้าน สู้โควิด-19

เมื่อวันที่ 17 มี.ค. สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ได้โพสต์เฟซบุ๊กสรุปสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (Covid-19) ในฝรั่งเศส ระบุว่า


1.วันจันทร์ที่ 16 มี.ค.2563 (สถานะเวลา 15.00 น.) ฝรั่งเศสมียอดผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส covid-19 สะสม จำนวน 6,633 (เพิ่มขึ้น 1,210 ราย) และมีผู้เสียชีวิต จำนวน 148 ราย (เพิ่มขึ้น 21 ราย )

2.เมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2563 เวลา 20.00 น. ประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้แถลงทางโทรทัศน์โดยกล่าวว่าขณะนี้ฝรั่งเศสอยู่ในสภาวะสงครามด้านสาธารณสุข จึงขอให้ทุกคนจำกัดการพบปะกับผู้อื่นในแต่ละวัน ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด และขอให้มีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยได้ประกาศมาตรการเพิ่มเติมเพื่อชะลอการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 ดังนี้

2.1 ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (17 มี.ค.) เวลา 12.00 น. และเป็นเวลา 15 วันเป็นอย่างน้อย จะอนุญาตให้เดินทางออกจากที่พักได้เฉพาะที่จำเป็น ได้แก่ การไปจ่ายตลาด ไปรับการรักษาพยาบาล ไปทำงานในกรณีที่ไม่สามารถทำงานจากบ้านได้ และไปเดินออกกำลังกาย โดยไม่อนุญาตให้ออกจากที่พักไม่ว่าจะเพื่อไปพบปะครอบครัวหรือเพื่อนฝูง และให้บริษัททุกแห่งต้องพยายามจัดการให้สามารถทำงานจากบ้านได้ หากไม่สามารถทำได้ จะต้องมีมาตรการป้องกันมิให้ลูกจ้างเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส หากไม่ทำตาม จะมีมาตรการลงโทษ

2.2 เลื่อนการเลือกตั้งท้องถิ่นรอบที่สองออกจากกำหนดเดิมในวันที่ 22 มี.ค.2563 ไปก่อน หลังจากที่ได้หารือกับ ปธ. สภาผู้แทนราษฎร ปธ. วุฒิสภา และหัวหน้าพรรคการเมืองทั้งหมด รวมทั้งได้รับฟังความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์

2.3 ขอให้ประชาชนไม่ตื่นตระหนก และระมัดระวังต่อ fake news

2.4 การทำงานทั้งหมดของรัฐบาลและรัฐสภาในขณะนี้ จะเป็นการทำงานเกี่ยวกับการบริหารจัดการวิกฤตนี้เท่านั้น จึงระงับการปฏิรูปทุกอย่าง เริ่มจากการปฏิรูประบบการเกษียณ และรัฐบาลจะเสนอร่างกฎหมายต่อ ครม. ในวันพุธนี้เพื่อให้อำนาจรัฐบาลออกกฤษฎีกาที่จำเป็นต่อการบริหารจัดการวิกฤตทางสาธารณสุขในครั้งนี้ ซึ่ง ร่างกฎหมายดังกล่าวจะเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาในวันพฤหัสบดีนี้

2.5 ในวันพรุ่งนี้(17 มี.ค.) จะมีการแจกจ่ายหน้ากากอามัยต่อบุคลากรทางการแพทย์ผ่านร้านขายยาใน 25 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด และวันพุธจะมีการแจกจ่ายให้กับพื้นที่อื่น ๆ และตั้งแต่วันพรุ่งนี้(17 มี.ค.)เป็นต้นไป รัฐบาลจะรับผิดชอบค่าแท็กซี่และค่าโรงแรมที่พักให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ที่มีความจำเป็นต้องใช้บริการ นอกจากนี้ จะมีการผ่อนเบาภาระของ รพ. ใน จ. Grand Est ที่มีผู้ป่วยจำนวนมากที่สุดในปัจจุบัน โดยจัดให้บริการ รพ. ทหารชั่วคราวแคว้น Alsace (hôpital de campagne du service de santé des armées)

2.6 ตั้งแต่วันพรุ่งนี้(17 มี.ค.) เวลา 12.00 น. จะปิดชายแดนด้านประเทศสหภาพยุโรปและพื้นที่ Schengen และระงับการเดินทางระหว่างประเทศอียู และประเทศนอกอียู เป็นเวลา 30 วัน โดยยังอนุญาตให้ชาวฝรั่งเศสที่อยู่ต่างประเทศเดินทางกลับประเทศ โดยสามารถติดต่อสถานทูต/สถานกงสุลฝรั่งเศสในต่างประเทศได้

2.7 จะยังคงให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ด้อยโอกาสในสังคม

2.8 จะไม่ให้บริษัทใดต้องล้มละลาย และไม่ให้ชาวฝรั่งเศสคนใดไม่มีรายได้ และให้เลื่อนการชำระเงินสมทบประกันสังคมและภาษี และรัฐบาลรับประกันการเลื่อนการจ่ายชำระหนี้ต่อธนาคารภายในวงเงิน 3 แสนล้านยูโร(ประมาณ 10.6 ล้านล้านบาท) และสำหรับบริษัทขนาดเล็กที่ประสบปัญหานั้น จะระงับค่าใช้จ่ายทุกอย่างไปก่อน อาทิ ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ ค่าแก๊ส ภาษี และค่าเช่า และจะมีการตั้งกองทุนช่วยเหลือผู้ประกอบการ

ทั้งนี้ รัฐบาลจะให้รายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการเหล่านี้ภายในวันพรุ่งนี้(17 มี.ค.)

3.ตามที่เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ได้มีประกาศ ก. สาธารณสุขในราชกิจจานุเบกษาฝรั่งเศส (Journal Officiel) เกี่ยวกับมาตรการป้องกัน/ชะลอการแพร่ระบาดของไวรัส นั้น วันนี้ ได้มีประกาศฉบับแก้ไขเพิ่มเติม โดยมีรายละเอียด ดังนี้

3.1 ให้มีการปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอย่างเคร่งครัด กล่าวคือ การหมั่นล้างมือ การไอ/จามใส่ข้อศอก การไม่จับมือทักทายและการเว้นระยะห่างระหว่างกันอย่างน้อย 1 เมตร โดยการชุมนุม การประชุม การจัดกิจกรรม หรือการต้อนรับใด ๆ ที่ไม่ถูกห้ามโดยประกาศนี้ ก็ต้องปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

3.2 ห้ามสถานประกอบการ/สถานบริการดังต่อไปนี้ ให้บริการแก่สาธารณชน จนถึงวันที่ 15 เม.ย. 2563

– สถานที่จัดการประขุม สัมมนาและการแสดง หรือสถานที่จัดงานแบบอเนกประสงค์

– ร้านขายสินค้าและศูนย์การค้า ยกเว้นการขายแบบ delivery หรือการมารับของที่ร้านค้า

– ร้านอาหาร และร้านขายเครื่องดื่ม (อาทิ ร้านขายไวน์ บาร์ ผับ) ยกเว้นการขายแบบ take away และ delivery บริการ room service ของร้านอาหารและบาร์ในโรงแรม และการให้บริการโรงอาหารที่ยังอยู่ภายใต้สัญญา

ที่มา https://www.khaosod.co.th/update-news/news_3766167