แกงเลียง อาหารพื้นบ้านแต่ประโยชน์มหาศาล ช่วยต้านมะเร็งได้ด้วย

แกงเลียง อาหารพื้นบ้านแต่ประโยชน์มหาศาล กินบ่อยๆ จะดีมาก


“แกงเลียง”อาหารพื้นบ้านที่มีมาแต่โบราณ เป็นแหล่งรวมสารพัดผัก เครื่องเทศที่มีคุณค่าทางโภชนาการในถ้วยเดียว เป็นอาหารที่มีความเผ็ดร้อน ให้ใยอาหารสูง ได้วิตามินและแร่ธาตุ ช่วยบำรุงน้ำนมแม่ ที่สำคัญช่วยต้านโรคมะเร็งได้ด้วย

สารพัดผักที่มีคุณค่าในแกงเลียงไม่ว่าจะเป็นพริกไทย หอมแดง พริกขี้หนู ใบแมงลัก ตำลึง บวบ ฟักทอง กะปิ ฯลฯ เรียกได้ว่ากินแกงเลียงถ้วยนึง ได้กินสารพัดผักเลยทีเดียว

จากการวิจัย สารกลุ่มแคโรทีนอยด์ และกลุ่มลาวานอยด์ในแกงเลียง มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการอักเสบที่เกิดขึ้นในเซลต่างๆ ได้ มีศักยภาพให้เซลล์มะเร็งตายแบบธรรมชาติที่ไม่ส่งผลกระทบต่อเซลล์อื่นๆในร่างกายได้มากถึง 45 เปอร์เซ็นต์ และแกงเหลืองทำให้เซลล์มะเร็งตายแบบธรรมชาติเพิ่มขึ้นอีก 15 เท่า

สิ่งที่ต้องเตรียม (ไม่ต้องครบตามสูตรหรือใส่มากกว่าก็ได้ เลือกผักที่เราชอบหรือเท่าที่หาได้ ก็ทำแกงเลียงอร่อยทั้งนั้น)

– ฟักทอง (ปอกเปลือก หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ) 1 ถ้วย

– บวบหอมอ่อน หรือบวบเหลี่ยมอ่อน (บวบปอกเหลี่ยมออกให้หมด หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ) 1 ถ้วย

– ข้าวโพดอ่อน (ปอกเปลือกเก็บฝอยปลายดอกออกให้หมดและหั่น) 1 ถ้วย

– เห็ดฟาง (ใช้มีดเกลาโคนและเศษดินออก ล้างน้ำ ผ่า 4 ส่วนตามยาว) 1 ถ้วย

– เห็ดนางฟ้า (ล้างน้ำและผ่าเป็นส่วน) 1 ถ้วย

– ใบแมงลัก (ล้างน้ำทั้งกิ่ง เขย่าให้สะเด็ดน้ำเด็ดเป็นใบ ๆ) 2 ถ้วย

– กุ้งสด 1 ถ้วย

– น้ำลวกกุ้ง 6 ถ้วย

เครื่องแกงเลียง


1. กุ้งแห้ง (แนะนำให้แช่กุ้งแห้งในน้ำร้อนไว้ก่อน จะได้นิ่มโขลกง่ายๆ) ½ ถ้วย

2. เนื้อกุ้งต้ม ½ ถ้วย

3. พริกไทยเม็ด 2 – 3 ช้อนโต๊ะ (จะให้รสเผ็ดร้อนของพริกไทย…ถ้าไม่ชอบจะใส่น้อยกว่านี้ก็ได้)

4. หอมแดง 10 หัวกลาง

5. กะปิอย่างดี 2 ช้อนโต๊ะ

6. กระชาย 3 แง่ง (ใส่เล็กน้อยเพื่อดับกลิ่นคาว จะหอมสมุนไพรเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลย)

7. พริกขี้หนูสวน 5-6 เม็ด (ตามชอบ หรือใส่เล็กน้อยถ้าไม่ชอบเผ็ดมาก)

วิธีทำ


1. นำผักทุกอย่างมาล้างน้ำให้สะอาดและปอกเปลือกเอาไว้ และเตรียมหั่นผักบางอย่างไว้ …ส่วนบางชนิดเช่นข้าวโพดฝักเราก็เก็บไว้หั่นตอนจะลงหม้อแกงก็ได้ หั่นเสร็จเราจะเก็บใส่ตู้เย็นไว้ก่อน (เพื่อรอสมาชิกกลับมาบ้านครบ เราค่อยนำออกมาทำก็ได้)

เวลาเตรียมผักลงต้ม เลือกผักที่จะใส่พร้อมกันไว้ติดๆ กัน ผักเนื้อแน่น ผักเนื้อแข็งสุกยาก เช่น ฟักทอง แตงโมอ่อน ผักเนื้อเบารองลงมาและสุกรองลงมา เช่น ข้าวโพดอ่อน บวบ ผักสุกง่ายเช่น เห็ดฟาง ถั่วฝักยาว ผักใบใส่ทีหลังสุดคือใบแมงลัก…เป็นต้น

2. ต่อไปเตรียมเครื่องแกงเลียง ให้นำทุกอย่างมาโขลกรวมกันหรือจะใช้เครื่องปั่นก็ได้ โดยเริ่มจากโขลกกุ้งแห้งก่อน ตามด้วยพริกไทย กระชาย กะปิ หอมแดง กุ้งสด และพริกสด ไม่จำเป็นต้องตำจนละเอียดยิบก็ได้

3. วิธีเตรียมกุ้งสดและน้ำซุป ดังนี้

– กุ้งสดนำไปล้างน้ำ ปอกเปลือก แล้วใช้กรรไกรตัดหัวเอาขี้กุ้งออก ตัดขากุ้งออกด้วย และผ่าหลังแบ่งเป็น 2 ซีกดึงเอาเส้นดำทิ้งไป (แคะออกด้วยไม้แหลมหรือไม้จิ้มฟัน)

– จากนั้นเราก็จะนำกุ้งมาต้มในน้ำเดือดแค่พอกุ้งสุก (เพราะเราต้องการน้ำที่ได้จากการต้มกุ้งนี้ไปทำน้ำซุป)…โดยกรองเอาน้ำไว้ด้วย

– พอได้กุ้งที่สุกแล้ว เราก็จะนำมาแกะเอาเปลือกกุ้งออก แต่ยังไม่ทิ้งเปลือกกุ้ง…ถ้าสังเกตุให้ดีที่เปลือกกุ้งจะมีหัว และมันกุ้งติดอยู่…ให้นำเอาทั้งหมดนั้นมาปั่น แล้วละลายในน้ำต้มกุ้ง…และใช้กระชอนกรองเอาส่วนที่ปั่นไม่ละเอียดทิ้งไป…เราก็จะได้น้ำซุปกุ้งสุดแสนหวานมำทำแกงเลียง โดยไม่ต้องใช้ผงปรุงรสใดๆ มาช่วยเลย

4. เมื่อได้น้ำซุปกุ้งสดมาแล้วก็นำไปใส่หม้อต้มให้เดือด พอน้ำแกงเดือดใส่เครื่องแกงเลียงลงไป

5. พอน้ำแกงเดือดอีกครั้ง…ให้เตรียมผักลงใส่ตามลำดับความสุกช้า เร็ว ของผัก คือผักสุกยากใส่ก่อน ตามด้วยผักสุกง่าย

6. ปรุงรสด้วยน้ำปลาสักเล็กน้อย ต้องชิมด้วย…ระวังเค็มเกิน (เพราะในเครื่องแกงเรามีทั้งกุ้งแห้ง และกะปิแล้ว)

7. ท้ายสุดค่อยใส่ใบแมงลัก ที่เป็นเอกลักษณ์ของแกงเลียงไทย…ใช้ทัพพีกดให้ใบแมงลักจมน้ำแกงให้หมด ปิดเตา พักไว้ 1 นาที คนพอทั่วก่อนตักใส่ชาม…พร้อมเสิร์ฟร้อนๆ


ที่มา https://www.kubkhao.com/2020/02/blog-post_48.html