จับสองผัวเมีย ตระเวนลักทรัพย์ อ้างตกงาน-เมียไม่เกี่ยว พบประวัติโชกโชน

เมื่อวันที่ 6 พ.ค. เวลา 23.00 น. พ.ต.ท.สุวทยา มาประจักษ์ รอง ผกก.สส.สภ.ปลายบาง จ.นนทบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ต.ศิโรดม ศรีปัญญา สว.สส. ร.ต.อ.พีระพรรณ์ ทองพิทักษ์ รอง สว.สส., ด.ต.พัลลภ ปลอดแก่นทอง และ ส.ต.อ.รัฐภูมิ รอดทับ ร่วมกันจับกุมตัว นายสมเกียรติ เจริญใจ อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ จ.205/63 และ นางสุธารัตน์ เจริญใจ อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ จ.206/63

ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์โดยแปลงตัวหรือปลอมตัวมอมหน้า หรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ซึ่งทั้งสองคนเป็นสามีภรรยากัน

พ.ต.ท.สุวทยา กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 11.30 น. ทั้งสองคนได้ทำทีไปเลือกซื้อต้นไม้ที่ร้านขายไม้ดอกไม้ประดับ ริมถนนกาญจนาภิเษก ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ก่อนจะลักเอากระเป๋าเป้ของ นางกาญจนา ขำคำ อายุ 49 ปี เจ้าของร้านแล้วหลบหนีไป มีทรัพย์สินเงิน 6,800 บาท บัตรประชาชน เอกสาร พระเครื่อง ลอตเตอรี่ 4 ใบ งวดวันที่ 1 เม.ย.2563

พ.ต.ท.สุวทยา กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุตำรวจสืบสวน สภ.ปลายบาง ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามจุดที่คนร้ายตระเวณก่อเหตุ พบรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีบรอนซ์-เงิน ทะเบียน 9กม6276 กรุงเทพมหานคร ที่คนร้ายขับมาก่อเหตุ

จากการตรวจสอบพบนายสมเกียรติ เป็นผู้ครอบครอง จึงนำภาพถ่ายให้ผู้เสียหายดูและยืนยันว่าเป็นคนร้ายที่มาก่อเหตุลักทรัพย์ ตำรวจจึงติดตามไปจับกุมตัวได้ที่บ้านเลขที่ 16/06412 การเคหะ ม.10 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ขณะเข้าจับกุมพบว่าทั้งสองคนยังใส่เสื้อผ้าชุดเดิมที่ใส่ในวันก่อเหตุ พร้อมตรวจยึดทรัพย์ได้คืนมาบางส่วน แต่เงินนายสมเกียรติได้ใช้จ่ายไปหมดแล้ว

จากการสอบสวนนายสมเกียรติ ให้การรับสารภาพว่า อ้างว่าตกงานเนื่องจากโรงงานที่ทำงานปิด วันเกิดเหตุได้เดินทางมากับนางสุธารัตน์ ภรรยา เพื่อมาขอยืมเงินจากเพื่อนที่อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี แต่เพื่อนไม่อยู่และไม่มีเงินติดตัว จึงเข้าไปก่อเหตุลักโทรศัพท์ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือลุงวิทย์ สาขา 2 ริมถนนบางกรวย-ไทรน้อย ต.บางเลน อ.บางใหญ่ ของนายทวิส ดูสอาด อายุ 45 ปี เจ้าของร้าน ได้โทรศัพท์มือ Oppo A83 สีชมพู ราคา 7,990 บาท ที่วางอยู่บนโต๊ะภายในร้านก่อนหลบหนีไป

นายสมเกียรติ ให้การต่อว่า ก่อนจะมาก่อเหตุลักกระเป๋าเป้ของนางกาญจนาที่ร้านขายต้มไม้ แล้วหลบหนีไปจนถูกตำรวจตามมาจับกุมตัวได้ ส่วนนางสุธารัตน์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ เนื่องจากมีพยานหลักฐานอย่างชัดเจน จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี

จากการตรวจสอบประวัตินายสมเกียรติพบว่า เมื่อปี 2558 ถูกตำรวจสภ.คลองหลวง จับกุมคดีจำหน่ายยาเสพติด ถูกศาลตัดสินจำคุก 4 ปี 8 เดือน พ้นโทษออกมา พ.ค.2562เวลา 23.00 น. ก่อนจะไปก่อเหตุลักทรัพย์ พื้นที่ สน.นางเลิ้ง เมื่อเดือนม.ค.2563 ถูกจับกุมตัว และอยู่ระหว่างประกันตัว มาก่อเหตุลักทรัพย์อีก

ที่มา ข่าวสดออนไลน์