จากรณีนายภาคภูมิ อายุ 32 ปี ก่อเหตุใช้ปืนขนาด 9 มม. จ่อยิงภรรยาคือ น.ส.ผุสดี อายุ 29 ปี จนเสียชีวิต ก่อนยิงตัวเองตายตามภายในห้องนอน พบลูกชายวัย 3 ขวบ กอดศพแม่โดยที่ไม่รู้ว่าแม่เสียชีวิตเหตุเกิดที่บ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.น้ำเฮี๊ย อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ตามที่เสนอไปก่อนหน้า
เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว วันที่ 18 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านหลังเกิดเหตุพบว่าญาติๆ ได้เตรียมสถานที่เพื่อรอรับศพผู้เสียชีวิต มาตั้งบำเพ็ญกุศล คาดว่าศพจะมาถึงช่วงค่ำของวันนี้
นางแสงมณี อายุ 57 ปี ญาติของนายภาคภูมิ เปิดเผยว่า ญาติของฝ่ายหญิงจะขอนำศพฝ่ายหญิงไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด ที่อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ แต่ตนและญาติๆเห็นว่า น่าจะตั้งศพคู่กันที่บ้านหลังนี้เนื่องจากเป็นสามีภรรยากันและเสียชีวิตอยู่ด้วยกัน จึงไม่อยากพรากทั้งคู่
อีกอย่างคือเพื่อความสะดวกในการดูแลและจัดการเรื่องต่างๆ ซึ่งจะมีการพูดจากันอีกครั้งในวันนี้ ซึ่งคาดว่าญาติของฝ่ายหญิงจะเข้าใจ แต่ทั้งนี้ก็อยู่ที่การตัดสินใจ และความสบายใจทั้งสองฝ่าย ส่วนลูกๆทั้งสองยังไม่ได้คุยกันว่าจะให้อยู่กับย่าหรือยาย คงต้องรอให้จัดการเรื่องานงศพให้เรียบร้อยเสียก่อน
ขณะที่บรรยากาศที่บ้านเกิดของฝ่ายหญิง ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ พบว่าแม่และญาติๆของฝ่ายหญิง รวมถึงเพื่อนบ้านกำลังจัดเตรียมสถานที่เพื่อจัดพิธีทางศาสนาเช่นกัน
นางรัชนี อายุ 65 ปี แม่ของน.ส.ผุสดี เปิดเผยว่า ญาติฝ่ายชายต้องการที่จะนำศพของทั้งคู่ไปตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่บ้านหลังเกิดเหตุ โดยให้เหตุผลว่าทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน ตายพร้อมกัน จึงไม่อยากให้ทั้งสองพรากจากกัน แต่ตนและญาติ ๆ ให้เหตุผลว่าตนมีลูกสาวคนเดียว เมื่อเสียชีวิตก็อยากจะให้นำศพมาประกอบพิธีที่บ้าน
เนื่องจากไม่สะดวกที่จะให้ญาติๆ ของตนเองเดินทางไปร่วมงานศพที่บ้านฝ่ายชายเพราะการเดินทาง ฝ่ายชายจึงยอมให้นำศพกลับมาประกอบพิธีที่บ้าน ซึ่งขณะนี้ก็รอรับศพก็ยังไม่ทราบว่าจะเดินทางกลับมาถึงเมื่อไหร่ และจะประกอบพิธีฌาปนกิจในวันพฤหัสที่ 21 พ.ค.2563 นี้
ส่วนหลานทั้งสองคนที่โดยเป็นหลานสาวอายุ 4 ขวบและหลานชายอายุ 3 ขวบ ตนและญาติ ๆ จะขอหลานชายวัย 3 ขวบมาเลี้ยง ส่วนหลานสาวก็ให้ฝ่ายย่าเป็นคนดูแล แต่ทั้งนี้ยังไม่ได้มีการคุยกันอย่างเป็นทางการ เพียงแต่พูดคุยกันในเบื้องต้นเท่านั้น
ที่มา ข่าวสดออนไลน์