เมื่อวันที่ 18 พ.ค. เจ้าหน้าที่กู้ภัยรวมใจโนนก่อ ได้รับแจ้งจาก น.ส.ลลิตา บุชลา อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 149 ม.7 ต.ห้วยข่า อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี ว่า มีคนพยายามจะทำร้ายร่างกาย จึงแจ้งประสานงานขอความช่วยเหลือไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยข่า เข้าตรวจสอบที่บ้านสร้างหอม ต.ห้วยข่า อ.บุณฑริก พบผู้เสียหายกำลังอยู่ในอาการตกใจ และหวาดกลัว ซึ่งคนที่พยายามจะทำร้ายร่างกายนั้นเป็นพี่ชายแท้ๆ ที่มีอาการคุ้มคลั่ง เนื่องจากเสพยาเสพติดเป็นประจำ
โดยนายวชิระได้เข้าไปหลบอยู่ภายในบ้าน เจ้าหน้าที่พยายามเข้าไปเกลี้ยกล่อมอยู่นาน แต่นายวชิระไม่ยอมออกมา เจ้าหน้าที่จึงแกล้งกระชากปืนหลายครั้ง นายวชิระที่มีอาการคุ้มคลั่งจึงออกมา เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปที่ สภ.ห้วยข่า
น.ส.ลลิตา กล่าวว่า พี่ชายมีพฤติกรรมเสพยาเสพติดมานาน และมีอาการคุ้มคลั่งอยู่บ่อยครั้ง แต่ครั้งนี้หนักสุด เพราะพยายามจะทำร้ายร่างกายตนเอง และคนในบ้าน โดยใช้ก้อนหินโยนใส่ตนและวิ่งไล่ ตนเข้าไปหลบอยู่ในรถ มีหลานชายมาเจอ จึงห้ามปรามช่วยเอาไว้ได้
น.ส.ลลิตา กล่าวอีกว่า พี่ชายชอบขโมยสิ่งของภายในบ้านไปขายเพื่อแลกกับยาหลายครั้ง แต่คนในบ้านไม่ถือสา เพราะเป็นพี่น้องกัน ล่าสุดขโมยชั้นวางของไปขาย พอจับได้ก็โวยวาย และจะมาทำร้ายร่างกายตน หากไม่มีคนมาเห็นก่อน ก็ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น ครั้งนี้ตนจะขอแจ้งจับพี่ชายตนเอง และอยากให้นำตัวไปบำบัดด้วย
ด้านนายธนายุทธ บุชลา อายุ 25 ปี หลานชายของ น.ส.ลลิตา กล่าวว่า ตนรู้ว่านายวชิระติดยาเสพติด ที่ผ่านมาก็ไม่หนักขนาดนี้ มาครั้งนี้ถึงขนาดจะทำร้ายร่างกายคนในบ้าน ตนมาเห็นเหตุการณ์แล้วพยายามเข้าห้ามปราม แต่นายวชิระไม่ยอมฟัง โดยฉุดดึงกันนานพอสมควร เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง นายวชิระก็เข้าไปหลบภายในบ้าน
ขณะที่ ร.ต.อ.ไพศาล สามหมอ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ห้วยข่า เผยว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาลักขโมย และพยายามทำร้ายร่างกาย โดยจะส่งไปตรวจหาสารเสพติดที่ รพ.พยาบาลบุณฑริก หากพบมีสารเสพติดในร่างกาย ก็จะดำเนินการเอาผิดทุกข้อกล่าวหา เพราะผู้เสียหาย ถึงแม้จะเป็นน้องสาว แต่แจ้งว่าต้องการที่จะดำเนินคดีกับพี่ชาย และอยากให้นำตัวไปบำบัดด้วย
ที่มา ข่าวสดออนไลน์