จับนางพยาบาลสาวใหญ่ ทำผิดพ.ร.บ.วิชาชีพ เปิดคลินิก ฉีดสเตียรอยด์-จ่ายยาชุด ให้คนไข้

วันที่ 21 พ.ค. พล.ต.ท.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ ผบช.ภ.6 และนพ.ไกรสุข เพชระบูรณิน นพ.สสจ.พิษณุโลก สั่งการให้หน่วยปฏิบัติการปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ ตำรวจภูธรภาค 6 (นปอ.ภ.6) และกลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก

ออกตรวจสอบและจับกุมตัว น.ส.มนัตนันท์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี ชาว อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย ได้เปิดสถานพยาบาลประเภทคลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ที่บ้านคลองเมม ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก

เนื่องจากพบว่ามีการฉีดยาสเตียรอยด์ และจ่ายยาชุดเพื่อรักษาคนไข้ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา กระทำผิด พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ข้อหาประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกระทำผิด พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 ข้อหาขายยาชุด มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก รับแจ้งจากประชาชนว่า เคยเข้าไปรับการรักษาที่คลินิกแห่งนี้ ซึ่งมีพยาบาล ชื่อ หมอน้อง เป็นผู้ที่ทำการรักษา โดยจะฉีดยาแก้ปวดเข้าตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และมีการจ่ายยาชุดให้ไปรับประทานอีกด้วย

จึงได้ประสานกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก นปอ.ภ.6 พร้อมได้ส่งสายเข้าไปใช้บริการ ปรากฏว่า สายลับถูกฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย จำนวน 3 จุด และได้รับยาชุดแก้ปวดมารับประทานอีก 1 ซอง จึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบ พบหลักฐานการฉีดยาประเภทสเตียรอยด์ ซึ่งจัดเป็นยาควบคุมพิเศษ และยาฉีดอีกหลายรายการ

นอกจากนี้ยังพบ ยาแผนปัจจุบันที่จัดเป็นชุด (ยาชุด : ยาหลายขนานในซองเดียวกัน) เตรียมเอาไว้จ่ายให้กับคนไข้อีกหลายอย่าง เช่น ยาชุดแก้ไอ แก้คัน แก้ปวด ปวดท้อง ฆ่าเชื้อ ไมเกรน ไข้หวัด มึนงง เป็นต้น

ในส่วนของยาชุดนี้ หลายรายการประกอบด้วยตัวยาในกลุ่มเดียวกันที่ออกฤทธิ์ซ้ำกันรวมอยู่หลายชนิดด้วย เช่น ยาแก้ปวดชนิดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) 2 ชนิด อยู่ในยาชุดแก้ปวด ไมเกรน มึนงง เป็นต้น

โดยที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก ขอแจ้งว่า คลินิกประเภทการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ไม่สามารถฉีดยาสเตียรอยด์ หรือยาฉีดประเภทอื่น ๆ ให้กับคนไข้ได้

เนื่องจากการฉีดยาถือว่าเป็นการประกอบวิชาชีพเวชกรรม จะต้องกระทำในคลินิกเวชกรรม (แพทย์) เท่านั้น และไม่สามารถจ่ายยาประเภทยาควบคุมพิเศษ/ยาอันตรายได้ ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ยา ด้วยเช่นกัน สุดท้ายจึงจับกุมตัวพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.พรหมพิราม ดำเนินคดีต่อไป

ที่มา ข่าวสดออนไลน์