จากกรณีชาวบ้านป่ามะกรูด ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก 4 คน หลงป่าขณะเข้าไปหาเห็ดและของป่าบนเทือกเขาลำพาด หรือเทือกเขาจอมปลวก เมื่อวันที่ 12 พ.ค. ก่อนจะพบตัวเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังเจ้าหน้าที่ใช้เฮลิคอปเตอร์บินสำรวจ จนพบควันไฟที่ถูกจุดก่อเพื่อขอความช่วยเหลือ โดยชาวบ้านมีความเชื่อเกี่ยวกับถ้ำขุนอภัย และอาถรรพ์ที่เกิดขึ้นภายในป่า ซึ่งบางคนเข้าไปหาของป่าแล้วเผลอข้ามเครือเถาหลง หรือผมนางไม้ ก็จะมีอาการเบลอ หาทางออกจากป่าไม่ได้นั้น ตามที่เสนอข่าวนั้น
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 21 พ.ค. นางทองหวิน พิมเสน อายุ 57 ปี ชาวบ้าน ม.4 บ้านน้ำพรม ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ซึ่งลูกชายเคยหลงป่าหายไปถึง 4 ปี และสุดท้ายพบเพียงโครงกระดูก เล่าว่า เมื่อ 14 ปีที่แล้ว นายหาญ พิมเสน ลูกชายของตน อายุ 22 ปี มีอาการทางประสาท โดยลูกชายชอบเดินไปเก็บเห็ดและของป่า ซึ่งก็สามารถกลับออกมาได้ทุกครั้ง
กระทั่งวันหนึ่งช่วงเดือนมิถุนายน 2549 ลูกชายบอกญาติว่าจะไปหาเห็ดในป่า แต่ไม่กลับออกมา จนผ่านไป 3 วัน สามีตนต้องขอให้ชาวบ้านหลาย 10 คนไปช่วยกันตามหา ใช้เวลาหาอยู่เป็นเดือน แต่ก็ยังไม่พบลูกชาย จน 2 เดือนผ่านไป ตนไปปรึกษาหมอดูที่อ.ด่านซ้าย จ.เลย หมอดูบอกว่าลูกชายตนถูกนางไม้จับไปทำเป็นสามีแล้ว จะไม่กลับมาอีกแล้ว ตนถามกลับว่าจะต้องทำอย่างไร จึงจะได้ลูกคืนมา หมอดูบอกว่าคงทำอะไรไม่ได้แล้ว
ซึ่งขณะนั้นตนยังทำใจไม่ได้ ได้แต่ร้องไห้ทุกวัน จนต้องถอดใจเพราะหาลูกชายไม่เจอ หลังจากนั้นตนก็ฝันว่าลูกชายมาบอกว่า “แม่ ผมตายแล้วนะ อยู่ข้างกอไผ่” ตนก็ให้สามีไปเดินตามหา แต่ก็ยังไม่เจออีก
จนกระทั่งผ่านไป 4 ปี พรานป่ามาบอกว่าเจอกระดูกอยู่บนเทือกเขาจอมปลวกใหญ่ ตนจึงขึ้นไปดูพบรองเท้าเบอร์ 42 และเสื้อผ้าขาดอยู่ข้างโครงกระดูก จำได้ว่าเป็นลูกชายตัวเอง จึงเก็บกระดูกมาทำบุญตามประเพณี ส่วนตัวคิดว่าลูกชายน่าจะหลงป่าและหาทางออกไม่เจอ ซึ่งลูกชายตนมีอาการทางประสาท ไม่มั่นใจว่าไปลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในป่าด้วยหรือไม่
ตนเชื่อเรื่องสิ่งบังตาที่ทำให้มองไม่เห็น เพราะจุดที่พบกระดูกนั้น ชาวบ้านบอกว่าเคยเข้าไปหาแล้วแต่กลับไม่พบ คาดว่านางไม้น่าจะบังเอาไว้ ล่าสุดตนทราบข่าวมีชาวบ้าน 4 คน และสุนัข 3 ตัว ซึ่งอยู่หมู่บ้านติดกันหลงป่า ตนก็คิดว่าน่าจะถูกบังตาเหมือนลูกชายตน แต่พวกกลับออกมาได้ หลังจากขอขมาและบนบานไว้
ที่มา ข่าวสดออนไลน์
