เรียนออนไลน์ วันที่ 21 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่เริ่มเปิดให้เรียนออนไลน์ เมื่อวันที่ 18 พ.ค. เป็นวันแรก จากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 โดยการเรียนออนไลน์นี้ รัฐได้เปิดช่องทางการเรียนการสอนทั้งหมด 6 ช่องทาง ได้แก่ 1.ทีวีดิจิทัล ช่อง 40-45 2.ทีวีดาวเทียม Ku-Band (จานทึบ) ช่อง 186-191 3.ทีวีดาวเทียม C-Band (จานโปร่ง) ช่อง 340-345 4.เว็บไซต์ www.dltv.ac.th 5.แอพพลิเคชั่น DLTV และ 6.ช่องยูทูบ
ทั้งนี้การเรียนผ่านมือถือ คอมพิวเตอร์หรือโทรทัศน์นั้นปรากฏว่าส่งผลกระทบต่อสุขภาพของนักเรียนสองพี่น้องในระดับชั้นประถมศึกษาชั้นปีที่ 5 และปีที่ 6 ในพื้นที่อำเภอสวี จ.ชุมพร โดยมีอาการมึนศีรษะ ตาบวม และถึงขั้นอาเจียน ผู้ปกครองจึงให้หยุดเรียนผ่านมือถือแต่ให้เรียนทางโทรทัศน์แทนพร้อมทั้งรอดูอาการ
จากการสอบถาม นางพัชรา คงช่วย อายุ 48 ปี ชาวบ้านดอนตาเหลือง หมุ่ 1 ต.ท่าหิน อ.สวี จ.ชุมพร กล่าวว่า หลังจากที่รัฐบาลให้นักเรียน เรียนผ่านระบบออนไลน์ โดยเริ่มให้ ด.ญ.ชนิกานต์ คงช่วย หรือน้องการ์ตูน เรียนชั้น ป.5 และ ด.ช.พงษกร คงช่วย หรือน้องกีต้า เรียนชั้น ป.6 ซึ่งเป็นลูกชายและลูกสาว เปิดแอพพลิเคชั่น DLTV ดูการเรียนการสอนผ่านโทรศัพท์มือถือหน้าจอขนาด 5 นิ้ว ในช่วงเช้าของวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา ให้น้องกีต้าและน้องการ์ตูนนั่งดูด้วยกันเป็นเวลาทั้งหมดประมาณ 3 ชั่วโมง แต่ระหว่างวิชาก็ให้สลับกับหยุดพักสายตาประมาณ 5 นาที
วันแรกลูกชายและลูกสาวบอกว่า รู้สึกมึนหัว ซึ่งตนก็ยังไม่สงสัยหรือเอะใจอะไร กระทั่งในวันที่สองให้ลูกชายลูกสาวเริ่มลงชื่อเรียนตามปกติ ปรากฏว่าทั้งสองคนมีอาการบวมเล็กน้อยที่ตาทั้งสองข้าง ช่วงบ่ายจึงสั่งให้หยุดเรียนชั่วคราวก่อนเพื่อสังเกตอาการ ต่อมาวันที่สามได้ลงเวลาส่งรายชื่อและภาพถ่ายว่านักเรียนได้เรียนออนไลน์แล้วส่งให้ครูทางโรงเรียนทราบ และมีอาการหนักขึ้นในระหว่างเรียนคือน้องกีต้า ตาเริ่มบวมมากขึ้นกว่าเดิม จึงสั่งให้หยุดเรียนทางโทรศัพท์มือถือ และทางช่องสถานีโทรทัศน์ทันที ซึ่งลูกชายบอกว่ายังมึนศีรษะด้วย
โดยอาการดังกล่าวเป็นทั้งสองคน แต่น้องการ์ตูน อาการจะไม่รุนแรง ส่วน น้องกีต้า ก่อนหยุดเรียนจะอาเจียนด้วยหลังมีอาการต้องให้นอนพักผ่อนและกินยาพาราเซตามอลช่วยระงับอาการ แต่หลังจากหยุดดูหน้าจอโทรศัพท์มีอาการดีขึ้น โดยจะรอดูอาการอีกครั้งถ้าไม่ดีขึ้นจะพาไปพบแพทย์ต่อไป
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นพ.อนุ ทองแดง รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชุมพร โดยกล่าวว่า ทั้งนี้ต้องดูก่อนว่าการเรียนออนไลน์นั้นผ่านคอมพิวเตอร์ไอแพด หรือมือถือ ซึ่งจอดังกล่าวจะมีแม่สีคือ สีแดง เขียว น้ำเงิน แสงที่ทำอันตรายต่อตาคือน้ำเงิน การดูหน้าจอนานๆ ควรตั้งไว้ที่วอร์มไลฟ์ หรือที่เรียกว่าโหมดสีจืดแต่การตั้งสีดังกล่าวมีข้อเสียคือเด็กจะไม่ชอบ ข้อดีคือไม่ทำลายสายตาเด็ก และเครื่องคอมฯ ต้องมีแผ่นกรองสีฟ้าหรือเสื่อน้ำเงิน โดยหาซื้อได้ทั่วไปในราคา 100 บาท
โดย นพ.อนุ แนะนำการใช้สายตาอีกว่าดู 20 นาที พัก 20 วินาที มองไกลประมาณ 20 ฟุต ซึ่งเป็นสูตรเชิงทางการแพทย์ กรณีมีน้ำตาไหล บวม ควรพบแพทย์โรงพยาบาลใกล้บ้านหรือจักษุแพทย์ ทั้งนี้นายแพทย์อนุฝากถึงผู้ปกครองให้สังเกตุอาการบุตรและปฏิบัติตามสูตร 20 20 20 ตามที่แจ้งข้างต้น
ที่มา ข่าวสดออนไลน์