จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ นฤชล นาคะตะ โพสต์เรื่องราวของลูกชายถูกกลุ่มคนร้ายไล่ยิงและทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องผ่าตัดสมอง ลงในเพจ “คนรักบางสะพาน” ซึ่งมีสมาชิกลุ่มกว่า 9 หมื่นคน และมีคนแชร์ต่อเรื่องราวดังกล่าวกว่า 6 พันครั้ง
เนื้อหาระบุว่า “น้องถูกทำร้ายร่างกายเมื่อวันที่ 15 พ.ค.2563 เวลา 16.40 น. ที่อำเภอปราณบุรี น้องไม่เคยรู้จักและไม่เคยเห็นหน้าคนร้ายมาก่อน และไม่เคยมีเรื่องกับใคร คนร้ายได้ยิงใส่น้อง 3 นัด แต่ไม่โดนน้อง แล้ววิ่งเข้ามารุมทำร้ายร่างกายน้อง 7 คน โดยที่น้องไม่มีอาวุธอะไรเลย พวกมันมีอาวุธครบมือ น้องเลือดออกในสมอง กะโหลกยุบไปทับเยื่อสมอง ต้องผ่าตัดด่วน ตอนนี้ยังจับตัวคนร้ายไม่ได้เลย คดีไม่คืบหน้าเลย อยากให้สังคมเป็นกำลังใจให้น้องจับตัวคนร้ายได้ไวๆ ด้วยนะคะ คนเป็นพ่อเป็นแม่ เมื่อได้ยินคำว่าต้องผ่าตัดสมอง ใจสลาย แต่โชคดีที่ลูกกลับมาปกติเหมือนเดิม ขอให้กรรมตามทันพวกมัน…ขอให้จับคนร้ายได้ไวๆ ด้วยเถอะ พวกมันโหดร้ายมาก ใจพวกคุณทำด้วยอะไร..”
ล่าสุด วันที่ 27 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ นฤชล นาคะตะ ที่หมู่ 2 ต.ปากแพรก อ.บางสะพานน้อย พบ น.ส.นฤชน ปานศิริ อายุ 48 ปี เจ้าของเฟซบุ๊ก นายภัทรเอกกร นาคะตะ อายุ 54 ปี สามี และนายภัทรเอกกฤต นาคะตะ อายุ 20 ปี ลูกชายที่ถูกทำร้าย
นายภัทรเอกกฤต นาคะตะ หรือ เดียร์ กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุคือวันที่ 15 พฤษภาคม ซึ่งตนเพิ่งไปทำงานที่บริษัทโซลาร์เอ็ณเณอร์จี (ประเทศไทยจำกัด) ตัวแทนจำหน่ายและติดตั้งโซลาร์เซลล์ ได้เพียง 3 วัน ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะหรือมีปัญหากับใคร ซึ่งวันเกิดเหตุได้ออกไปทำงานนอกพื้นที่ พอเวลาประมาณ 4-5 โมงเย็น หัวหน้างานโทรตามให้ไปหาที่หมู่บ้านจัดสรร ซึ่งเป็นบ้านของหัวหน้า เพราะแกเห็นว่ามีคนแปลกหน้าเข้ามาในหมู่บ้าน จึงขับรถออกไปดูตามที่หัวหน้าบอก และถูกยิงใส่ด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิด 3 นัด แต่กระสุนไม่โดน ต่อจากนั้นมีกลุ่มคนประมาณ 7 คน เข้ามาทำร้าย หลังเกิดเหตุต้องไปพักรักษาตัวที่ โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ 6 วัน โดยมีการผ่าตัดสมอง ตอนนี้อาการโดยรวมดีขึ้น แต่บางครั้งยังมีอาการมึนงง
ด้าน น.ส.นฤชล ปานศิริ ผู้เป็นแม่ กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเหตุ ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปราณบุรี ท้องที่เกิดเหตุ มาสอบปากคำลูกชายเลย อยากให้คดีมีความคืบหน้า อยากให้จับคนที่ทำร้ายลูก อยากรู้ว่าทำเพื่ออะไร อยากรู้สาเหตุจริงๆ มาจากอะไร ลูกเราไม่ได้รู้เรื่องด้วย ช่วงหลังเกิดเหตุที่ลูกนอนอยู่โรงพยาบาล ก็ไม่มีใครมาเยี่ยม หัวหน้างานก็ไม่มา แต่ก็ช่วยค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด ซึ่งอาการล่าสุดของลูกหลังจากกลับมาพักฟื้นที่บ้านได้ 3 วัน อาการดีขึ้น แต่ยังมีอาการชาบริเวณศีรษะ โดยปกติลูกชายถ้ามีเวลาว่างก็จะเป็นจิตอาสาทำงานกู้ภัยอยู่ที่บางสะพานน้อยด้วย
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์