เมื่อ 27 พ.ค. เอพี รายงานคดีพิพาทด้านสีผิวในสังคมอเมริกันครั้งใหม่ที่เป็นข่าวใหญ่ไปทั่วประเทศ กรณีนายตำรวจผิวขาวจับกุมชายผิวดำไร้อาวุธ กดลงพื้นถนน แม้ว่าชายผิวดำร้องว่าหายใจไม่ออกแล้ว แต่ตำรวจล็อกแน่นจนชายผิวดำแน่นิ่งสิ้นใจไป ต่อมา นายตำรวจที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ 4 นายถูกไล่ออกแล้ว
เจ้าหน้าที่ทั้งสี่ของเมืองมินเนอาโปลิส รัฐมินเนโซตา ถูกไล่ออกอย่างรวดเร็ว เพียงหนึ่งวันหลังการตายของนายจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำคนดังกล่าว ตามการพิจารณาของผู้กำกับการตำรวจมินเนอาโปลิส และได้รับการสนับสนุนจากนายกเทศมนตรี เจค็อบ ฟรีย์
ส่วนการสอบสวนว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่เป็นอาชญากรรมหรือไม่ หรือใช้กำลังเกินกว่าเหตุหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนในการสอบสวนโดยเอฟบีไอ
การตัดสินไล่เจ้าหน้าที่ตำรวจออกทำได้รวดเร็ว เนื่องจากมีภาพเหตุการณ์ชัดเจน บันทึกโดยผู้สัญจรอยู่ในจุดเกิด ด้านหน้าร้านขายของชำ เห็นนายตำรวจจับนายฟลอยด์นานราบกับพื้น และใช้เขากดไปที่คอ นายฟลอยด์ร้องว่า “ผมหายใจไม่ออก” และอยู่นิ่งแล้ว แต่ตำรวจก็ยังกดเข่าไม่คลายล็อก
เจ้าหน้าที่เอฟบีไอและสำนักงานตำรวจรัฐมินเนโซตา ต่างเห็นว่า เหตุการณ์นี้ใกล้เคียงกับคดี นายเอริก การ์เนอร์ ชายผิวดำไร้อาวุธที่หายใจไม่ออกตายจากการจับกุมของตำรวจนิวยอร์กเมื่อปี 2557 เหยื่ออ้อนวอนขอชีวิตก่อนตาย ว่าหายใจไม่ออกแล้ว
ส่วนสหภาพตำรวจแถลงขอให้สาธารณชนรอผลการสอบสวนก่อนด่วนตัดสินประณามเจ้าหน้าที่ตำรวจ
สำหรับเมืองมินเนอาโปลิส การใช้เข่าล็อกคอผู้ต้องสงสัยเป็นหลักปฏิบัติที่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ใช้ได้ เพราะถือว่าเป็นการใช้กำลังที่ไม่ทำให้ถึงตาย แต่จากเหตุการณ์นี้ ผู้เชี่ยวชาญดูจากคลิปแล้วเห็นว่า เจ้าหน้าที่ล็อกนานเกินไป ทั้งที่ชายผิวดำไม่ได้ขัดขืนแล้ว แสดงให้เห็นถึงว่าตำรวจฝึกฝนมาไม่ดี โดยเฉพาะเมื่อเหยื่อพูดว่า หายใจไม่ออก ก็ยังไม่สนใจ
ที่มา ข่าวสดออนไลน์