สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า ด.ญ.โรมินา อัชราฟี หนีออกจากบ้านในจังหวัดกีลาน ไปพร้อมกับชายคนรักวัย 35 ปี หลังจากพ่อของเธอคัดค้านเรื่องการแต่งงานของทั้งคู่ แต่สุดท้ายตำรวจก็ตามตัวอัชราฟีจนพบ แล้วพากลับบ้าน แม้ว่าเธอจะบอกตำรวจซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า หากกลับบ้านเธออาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
และความกังวลของเธอก็กลายเป็นจริงในคืนวันพฤหัสบดีที่ 21 พ.ค. เธอถูกผู้เป็นพ่อบุกเข้ามาสังหารถึงในห้องนอนของตัวเอง โดยสื่อท้องถิ่นอย่าง Gilkhabar.ir รายงานว่า อัชราฟีถูกตัดศีรษะด้วยเคียว หลังจากนั้นผู้เป็นพ่อก็เดินออกมาจากบ้านพร้อมกับเคียวในมือ แล้วสารภาพทุกอย่าง ก่อนที่ตำรวจจะจับตัวเขาไป
ข่าวการเสียชีวิตของอัชราฟีทำให้เกิดกระแสความโกรธแค้นไปทั่วประเทศ แฮชแท็ก #Romina_Ashafi บนทวิตเตอร์ถูกใช้มากกว่า 50,000 ครั้ง โดยผู้ใช้งานส่วนใหญ่ต่างประณามการฆาตกรรมและสภาพสังคมของอิหร่านโดยรวม ขณะที่สื่ออิหร่าน เช่น ‘Ebtekar’ ซึ่งฝักใฝ่การปฏิรูป ระบุว่าเหตุการณ์นี้คือความล้มเหลวของกฎหมายสำหรับปกป้องผู้หญิงและเด็กที่อิหร่านมีอยู่
ขณะที่นางชาฮินดอคต์ โมลาเวอร์ดี เลขาธิการของสมาคมปกป้องสิทธิสตรีอิหร่าน โพสต์ข้อความว่า อัชราฟีไม่ใช่เหยื่อรายแรกและจะไม่ใช่รายสุดท้ายของการฆ่าเพื่อเกียรติ ตราบใดที่กฎหมายและวัฒนธรรมท้องถิ่นไม่สามารถป้องปรามพฤติกรรมเช่นนี้ได้อย่างเพียงพอ
ทั้งนี้ กฎหมายอิสลามของอิหร่าน จะลดโทษให้แก่บิดาหรือสมาชิกครอบครัวคนใดก็ตาม ที่ก่อเหตุฆาตกรรมหรือใช้ความรุนแรงต่อเด็ก ในกรณีการใช้ความรุนแรงในครอบครัว หรือการฆ่าเพื่อเกียรติ เช่น หากผู้ชายในอิหร่านถูกพบว่ามีความผิดจริงฐานฆ่าลูกสาว จะต้องรับโทษจำคุก 3-10 ปี แทนที่จะเป็นโทษประหารตามปกติ
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์