รวบแก๊งค์โหด ฆ่าสาวอายุ 19 ปี หลังไม่พอใจที่ไม่ยอมแบ่งค่าตัว ลวงไปฆ่าข่มขืน เผาคารถ เมื่อยังไม่ตายก็ยิงซ้ำจนจมน้ำดับไปต่อหน้าต่อตา เมื่อแน่ใจว่าตายแล้ว จึงแยกย้ายกันหลบหนี ตำรวจบุกจับผู้ร้ายคนสำคัญ มีรางวัลนำจับถึง 1 แสนบาท
วันที่ 1 มิ.ย. พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบก.ปคม. สั่งการให้ พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง , รอง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล ผกก.1 บก.ปคม. และ พ.ต.ท.อาทิตย์ พุ่มทอง รอง ผกก.1 บก.ปคม. นำกำลังจับกุม นายสุพจน์ ปัญญากลาง หรือติ หรือกิจ หรือกอน อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดลำปาง ที่ 3/2551 ลงวันที่ 10 มกราคม 2551 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันซ่อนเร้นหรือย้ายศพเพื่อปกปิดการตายหรือเหตุแห่งการตาย และร่วมกันบุกรุกสถานที่ราชการในเวลากลางคืน และร่วมกันมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน และพาอาวุธปืนโดยไม่รับอนุญาต จับได้ที่บ้านเช่า เลขที่ 36 หมู่ 2 ต.เมืองพาน อ.พาน จ.เชียงราย
พ.ต.อ.มารุต เผยว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2548 นายสุพจน์เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับปฏิทิน ตร.ลำดับที่ 105 มีรางวัลสินบนนำจับ 100,000 บาท ร่วมกับนายเชษฐา วรรณศิริยากร และนายสุวิทย์ โชคดี ซึ่งทั้งคู่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ในเวลาต่อมา ทั้งหมดได้ร่วมกันล่อลวง น.ส.จุฑามณี หรือก้อย อายุ 19 ปี ให้ขับรถเก๋งไดฮัทสุ มิร่า มารับที่ปากซอยทางเข้าโรงแรมแห่งหนึ่งที่ อ.เมืองลำปาง
เมื่อมาถึงที่พักได้หลอกว่ามีลูกค้าติดต่อมาขอซื้อบริการทางเพศ เมื่อเข้าไปข้างในห้อง นายสุวิทย์ ได้ใช้กำลังปลุกข่มขืน จากนั้นได้ลงมือทำร้ายร่างกายโดยมีนายเชษฐาเป็นคนจับขาไว้ ส่วนนายสุวิทย์เป็นคนใช้ผ้าขนหนูรัดคอนางสาวก้อยจนนอนแน่นิ่งไป ก่อนจะนำตัวไปขึ้นรถเก๋งมิร่า แล้วขับไปยังทางเข้าสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ต.ปงยางคก อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง
เมื่อไปถึงนายสุวิทย์ได้ให้นายสุพจน์ ไปขอยืมรถกระบะจากคนรู้จักพร้อมซื้อน้ำมันเบนซินมาด้วย เมื่อนายสุพจน์มาถึง นายสุวิทย์ได้ราดน้ำมันไปที่รถที่นางสาวก้อยอยู่ข้างใน และจุดไฟเผา ขณะนั้นนางสาวก้อยเพียงแค่หมดสติเท่านั้น หลังจากนั้นกลุ่มคนร้ายได้ช่วยกันเข็นชนรถลงไปในบึงและพบว่านางสาวก้อยยังไม่เสียชีวิต เมื่อเห็นว่าเหยื่อกำลังว่ายน้ำขึ้นฝั่ง นายสุวิทย์จึงใช้ปืนลูกซองที่ติดตัวมาด้วยยิงใส่นางสาวก้อย 1 นัด ก่อนเห็นว่าจมไปต่อหน้าต่อตา เมื่อแน่ใจว่านางสาวก้อยตายแล้ว จึงแยกย้ายกันหลบหนี
ต่อมาตำรวจสามารถจับกุมตัวนายเชษฐาและนายสุวิทย์ได้ ก่อนจะตามจับกุมนายสุพจน์ ซึ่งหนีคดีมานานกว่า 15 ปี ส่วนสาเหตุการฆาตกรรมครั้งนี้สืบทราบมาว่า นายสุวิทย์ไม่พอใจที่ผู้ตายไม่ยอมแบ่งค่าตัวให้ หลังตนเองนั้นเป็นผู้ติดต่อลูกค้ามาให้ผู้ตาย เมื่อถูกหลอกใช้บ่อยๆ จึงตัดสินใจลวงฆ่า ส่วนนายสุพจน์ยังให้การปฏิเสธ จึงนำตัวส่งสภ.ห้างฉัตรให้ดำเนินคดีต่อไป
