ผลชันสูตรเจ้าหน้าที่อิสระชี้ จอร์จ ฟลอยด์ ขาดอากาศหายใจตาย สวนทางกับผลของทางการ!

จากรณีที่นายจอร์จ ฟลอยด์ ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกา วัย 46 ปี ถูกตำรวจผิวขาวในเมืองมินนีแอโพลิสใช้เข่ากดบริเวณลำคอเเละหลังเป็นเวลานาน จนขาดอากาศหายใจเเม้ว่าจอร์จ ฟลอยด์จะบอกตำรวจว่าเขาหายใจไม่ออกเเต่ก็ไม่เป็นผล จนเขาเสียชีวิตในที่สุด เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา กลายเป็นเรื่องที่คนทั้งโลกให้ความสนใจเเละเกิดการประท้วงอย่างรุนเเรงในประเทศสหรัฐอเมริกา

เมื่อวันที่ 1 มิุนายน สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นายเบนจามิน ครัมป์ ทนายความประจำตระกูลฟลอยด์ เปิดเผลผลการชันสูตรศพของเจ้าหน้าที่อิสระ เพื่อหาสาเหตุการตายที่เเท้จริง พบว่า ฟลอยด์เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ ซึ่งขัดเเย้งกับผลชันสูตรเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ในเมืองที่บอกว่า ไม่พบหลักฐานของภาวะการขาดอากาศหายใจหรือการบีบคอ เเละฟลอยด์น่าจะเสียชีวิตเพราะโรคประจำตัว

ผลชันสูตรดังกล่าวชี้ว่า นายฟลอยด์เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจจากการถูกเเรงกดเป็นเวลานาน “โดยพื้นฐานเเล้วฟลอยด์น่าจะเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ” เเละนายครัมป์ยังกล่าวอีกว่า “รถพยาบาลเป็นเพียงรถบรรทุกศพของเขาเท่านั้น”

ทั้งนี้นายครัมป์เเละครอบครัวของนายฟลอยด์ขอให้อดีตตหัวหน้าเจ้าหน้าที่นิติเวชในนครนิวยอร์กชันสูตรศพของนายฟลอยด์อีกครั้ง ผลชนสูตรปรากฏว่าการที่นายฟลอยด์ถูกตำรวจควบคุมตัว กับปัญหาสุขภาพที่เขามีอยู่ก่อน เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ, โรคหัวใจเพราะความดันสูง และอาจรวมถึงสารมึนเมาที่อยู่ในร่างกาย น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาเสียชีวิต แต่ไม่พบสิ่งที่สนับสนุนเรื่องการหายใจไม่ออกเพราะการบีบรัดคอ

อย่างไรก็ตาม คำฟ้องร้องของครอบครัวฟลอยด์ต่อนายเดเรค เชาวิน อดีตตำรวจมินนิแอโพลิสผู้ก่อเหตุ ระบุว่า นายเชาวินใช้เข่ากดคอนายฟลอยด์นานถึง 8 นาที 46 วินาที โดย 2 นาที กับ 53 วินาทีในจำนวนนี้เกิดขึ้นขณะที่นายฟลอยด์ไม่ตอบสนองแล้ว