จากกรณีวันที่ 25 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมาจากเหตุการณ์นายจอร์จ ฟลอยด์ ชาวอเมริกาเชื้อสายแอฟริกา วัย 46 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เข่ากดที่คอจนขาดอากาศหายใจและเสียชีวิต จนเกิดเป็นการประท้วงครั้งใหญ่ในรอบหลายสิบปีของสหรัฐอเมริกา ให้เลิกใช้ความรุนแรงกับคนผิวสี เพราะทุกคนเท่าเทียมกันพร้อมติดแฮ็กแท็ก #BlachLivesMetter
ล่าสุดวันที่ 3 มิถุนายน 2563 สำนักข่าวแชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า นางเอมี โคลบูชาร์ สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ ว่า คีธ เอลลิสัน อัยการสูงสุดรัฐมินนิโซตา เตรียมยกระดับข้อกล่าวหาของ นายเดเร็ค เชาวิน อดีตตำรวจผู้ใช้เข่ากดคอของ นายจอร์จ ฟลอยด์ เป็นฆาตกรรมระดับ 2 ขณะที่เพื่อนตำรวจอีก 3 นายที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ถูกตั้งข้อหามีส่วนช่วยหรือส่วนร่วมในการฆาตกรรมระดับ 2 ด้วย
ทั้งนี้บุคคลทั้ง 4 ถูกปลดออกจากราชการแล้วและอัยการได้ยืนยันข้อหาเดิมที่สั่งฟ้องนายชอวินได้ ได้แก่ ฆาตกรรมระดับสาม หรือทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยผิดกฎหมาย และเพิ่มขึ้นมาคือ การฆาตกรรมโดยไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน รวมแล้วมีบทลงโทษสูงสุด จำคุก 40 ปี จากเดิม 25 ปี ส่วนอีก 3 นาย ได้แก่ นายโธมัส เลน นายเจ. เคิง และนายทู เธา ถูกตั้งข้อหาช่วยเหลือและสนับสนุนฆาตกรรม มีบทลงโทษสูงสุด จำคุก 40 ปีเช่นกัน
หลังจากข่าวเรื่องการเพิ่มข้อหานายเชาวินถูกเปิดเผยออกมา นายเบนจามิน ครัมป์ ทนายความของครอบครัวฟลอยด์ก็ออกแถลงการณ์ระบุว่า “นี่เป็นช่วงเวลาหวานอมขมกลืน เป็นก้าวสำคัญบนถนนสู่ความยุติธรรม และเราพอใจที่ความเคลื่อนไหวสำคัญเช่นนี้เกิดขึ้นก่อนที่ร่างของจอร์จ ฟลอยด์ จะได้รับการกลบฝัง”
แถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า นายเอลลิสันจะพิจารณาเพิ่มข้อกล่าวหาเป็น ฆาตกรรมโดยไตร่ตรองไว้ล่วงหน้า หากว่ามีหลักฐานสนับสนุน นายครัมป์ ยังขอให้ผู้ประท้วงออกมาเรียกร้องเพื่อความเปลี่ยนแปลงด้วยวิธีสันติ