เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2563 สื่อต่างประเทศรายงานว่ามีการพบร่างชาย 2 คน ถูกฝังอยู่ใต้เถ้าถ่านลึก 2 เมตร ภายในอุทยานโบราณคดีเมืองปอมเปอี (Pompeii) นครโรมันที่เกิดเหตุภูเขาไฟวิสุเวียส (Mount vesuvius)ปะทุจนมีผู้คนล้มตายเป็นจำนววนมากและเมืองเสียหายตั้งแต่ปีค.ศ.79 หรือ พ.ศ.622
การค้นพบนี้ถูกพบเมื่อเจ้าหน้าที่ประจำอุยานโบราณคดีปอมเปอี ทำการขุดค้นสำรวจซากปรักหักพังของหมู่บ้านเก่าแก่สมัยโรมัน ริมทะเลเมดีเตอร์เรเนียน ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของเมืองทางตอนกลางในประเทศอิตาลี ในปี 2560 ได้มีการค้นพบซากม้า 3 ตัวพร้อมอาน ถูกฝังอยู่
ทีมนักสำรวจได้เทช็อกเหลว ถือเป็นวิธีการชำระล้างเศษขี้เถ้า นอกจากจะเผยรูปพรรณสันฐานของศพแล้ว ยังสามารถเห็นท่าสุดท้ายก่อนที่จะเสียชีวิตด้วย ซึ่งมีลักษณะคล้ายรูปปั้นที่ถูกฝังมานานกว่า 2,000 ปี
จากการตรวจสอบกระดูกและฟันของศพทั้งสอง พบว่า ร่างแรกเป็นชายที่น่าอยู่ในอายุประมาณ 30-40 ปี มีโครงสร้างกระดูกแข็งแรง โดยเฉพาะบริเวณกระดูกที่หน้าอก สภาพนอนหงายหงายหลัง มือทั้งสองกุมหน้าอก ขาขวาเหยียดตรง ขาซ้ายงอพับ
ส่วนอีกร่างคาดว่าเป็นชายหนุ่มอยู่ในอายุประมาณ 18-25 ปี ผลการตรวจกระดูกกะโหลกและฟันพบว่า เขามีอาหารหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน คาดว่าเกิดจากการใช้แรงงานอย่างหนักอยู่เป็นประจำ อยู่ในสภาพนอนหงาย ขาเหยียดตรง มือขวาทับท้อง มือซ้ายพาดบนต้นขา ซึ่งเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าชายหนุ่มคนนี้น่าจะเป็นทาส
มัสซิโม โอซานนา หัวหน้าทีมนักโบราณคดี ผู้อำนวยการอุทยานนครปอมเปอี วิเคราะห์ว่า ชายทั้งสองคน น่าจะมองหาที่หลบภัยในคริปโตพอร์คัส หรือโถงใต้ดิน เพราะคิดว่าน่าจะปลอดภัย ถ้าหากหลบอยู่ในนี้ แต่พวกเขาก็ไม่รอดชีวิตและถูกฝังกลบด้วยเถ้าถ่านภูเขาไฟร้อนระอุ
สำหรับภูเขาไฟวิสุเวียสเป็นภูเขาไฟที่ยังคงปะทุอยู่ โดยครั้งล่าสุดที่ปะทุคือปี ค.ศ.1944 หรือปีพ.ศ. 2487 ซึ่งสร้างความเสียหายให้หมู่บ้านใกล้เคียง แต่ไม่พบว่ามีผู้เสียชีวิต