หลายคนอาจจะตั้งเป้าเอาไว้ว่าก่อนปีใหม่จะลดน้ำหนัก หรือปีหน้าจะลดน้ำหนัก อยากบอกทุกคนว่าไม่ต้องรเวลาค่ะ ถ้าตั้งใจจะทำอะไรก็ขอให้ลงมือทำเลย เหมือนชายหนุ่มคนนี้ที่เขาตั้งใจจะลดน้ำหนักและอยากเดินตามความฝัน สุดท้ายเขาก็ประสบความสำเร็จตามที่ใจต้องการ
Adan Prescott วัย 25 ปีจากประเทสสหรัฐอเมริกา เขาเคยมีน้ำหนักมากถึง 208 กิโลกรัม เนื่องจากว่า เขาใช้วิธีการกินเป็นการปลอบใจ ที่เขาต้องสูญเสียคุณพ่อไปตอนอายุเพียง 18 ปี จนเวลาผ่านไปเขาเริ่มเสพติดพวกอาหารขยะทั้งหลาย และดื่มน้ำอัดลมวันละ 11 ลิตร กว่าจะรู้ตัวน้ำหนักก็ปาเข้าไป 200 กว่ากิโลกรัมแล้ว
ตัวของเขาใหญ่มากจนไม่สามารถก้มผูกเชือกร้องเท้าได้ นั่นเป็นสาเหตุทำให้เขาคิดอยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ไม่ขอทนอยู่กับชีวิตแบบนี้อีก พร้อมทั้งอยากประสบความสำเร็จสักอย่างในชีวิต จึงเอาความฝันในวัยเด็กที่อยากเป็นนาวิกโยธินสหรัฐฯ มาเป็นแรงบันดาลใจ
เขาอยากเป็นทหารเพื่อเดินตามรอยของพ่อ และบอกว่า แม้ว่าพ่อของเขาจะไม่อยู่แล้ว แต่พ่อก็ยังเป็นแรงบันดาลใจให้เขาลดน้ำหนักและเปลี่ยนชีวิตของเชาไปในทิศทางที่ต้องการ
สิ่งแรกในการลดน้ำหนักคือ เขาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินทั้งหมด เลิกกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และจำกัดการทานอาหารแต่ละวันอย่างเคร่งครัดโดยเขากินไม่เกิน 1,200 แคลอรี่ เพียงแค่ 2 เดือนแรกน้ำหนักของเขาก็ลดลงไปถึง 22.5 กิโลกรัม และ 1 ปีผ่านไป เขาสามารถลดน้ำหนักได้ถึง 45 กิโลกรัม
เขาลดน้ำหนักตั้งแต่ปี 2559 จนมาถึงกลางปี 2560 น้ำหนักของเขาอยู่ในจุดที่เขาสามารถออกกำลังกายได้ เขาเริ่มต้นจากการเดิน แล้วเริ่มเปลี่ยนเป็นการวิ่งเหยาะ และทำบอดี้เวทที่บ้าน ซึ่งทำให้น้ำหนักของเขาลดลงอีก
จนกระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ปี 2562 น้ำหนักของเขาเหลือ 104 กิโลกรัม ในเดือนพฤษภาคมเขาได้ไปสมัครเข้ากองทัพและทำได้สำเร็จ จากนั้นอีก 5 เดือนที่เขาต้องฝึก เขาต้องออกกำลังกายอย่างหนักเพื่อทดสอบสมรรถภาพ ซึ่งเขาทุ่มเทมากที่จะฟิตหุ่นของร่างกาย จนกระทั่งสามารถผ่านแบบทดสอบทั้งหมดได้
ตอนนั้นน้ำหนักของเขาเหลือเพียง 95 กิโลกรัม เป็นช่วงที่เขารู้สึกว่าร่างกายฟิตที่สุดแล้วและเขาก็พอใจในรูปร่างของตัวเองมาก นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขาก็ยังคงออกกำลังกาย 6 ครั้งต่อสัปดาห์ และมุ่งมั่นในการสร้างกล้ามเนื้อให้ตัวเอง โดยเขามีแผนว่าจะเข้ารับการผ่าตัดผิวหนังส่วนเกินออกในปี 2564
Prescott บอกว่า เขารู้สึกภูมิใจที่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ถ้าเทียบกับ 2 ปีก่อน เขามีความสุขมากกว่าที่เคยและคิดว่าพ่อก็ต้องภูมิใจในตัวเขาเช่นกัน
ที่มา : metro