เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2564 แฟนเพจเฟซบุ๊ก นิตยสารฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ได้เผยแพร่บทความในหัวข้อ “กินถั่งเช่าสกัดต่อเนื่องเสี่ยงไตวาย ต้องระบุคำเตือนในฉลาก” โดยอ้างอิงมาจาก รศ.ดร.ภญ.มยุรี ตั้งเกียรติกำจาย สาขาวิชา เภสัชกรรมคลินิก คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
(ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา)
ในปีพ.ศ. 2562-5563 พบว่า มีผู้ป่วยจำนวน 8 ราย เป็นผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวคือโรคหัวใจได้รับประทานสารสกัดถั่งเช้าสีทอง วันละ 1 เม็ด เป็นเวลา 1 เดือน ทำให้ค่าการทำงานของไตแย่ลง เมื่อหยุดใช้ค่าการทำงานของไตกลับมาดีขึ้น อีก 6 รายพบว่า มีอาหารไตวายเฉียบพลัน 1 ราย เป็นโรคไตเรื้อรังระยะ 3-4 2 ราย บางรายหยุดใช้แล้วอาหารดีขึ้น แต่ยางคนต้องฟอกเลือด และพบว่ามี 1 รายที่ใช้กาแฟถั่งเช่าร่วมกับยาแก้ปวดและยาสเตอรอยด์ ทำให้ค่าการทำงานของไตแย่ลง
(ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา)
(ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา)
นอกจากปัญหาการทำงานของไตจากการทานถั่งเช่าสกัดแล้ว ยังมีคนจำนวนมากที่รำคาญโฆษณาจากผลิตภัณฑ์นี้ ทั้งยังอ้างสรรพคุรสารพัด บำรุงร่างกาย เพิ่มพลังทางเพศ ทำให้ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพอยากทดลอง แต่ลผลลัพธ์ที่ได้นั้นรุนแรงและทำให้เกิดโรคร้ายตามมา เช่น ไตวายเรื้อรัง จึงอยากให้ทางกสทช. ร่วมมือกับอย.ในเรื่องของการโฆษณาเกินจริง ซึ่งมีความผิดทางกฎหมาย รวมถึงอยากให้ผู้ผลิตทั้งหลาย ปรับปรุงฉลาก ให้มีคำเตือนที่ชัดเจนในการใช้ผลิตภัณฑ์
(ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา)
กรณีที่เกิดขึ้นนี้คล้ายกับการทานขี้เหล็กสกัด ที่ทำให้ผู้ใช้มีอาการตาเหลือง ทั้งที่ใบขี้เหล็กมีสรรพคุณทางด้านนอนไม่หลับ ช่วยบำรุงตับ ช่วยไม่ให้ท้องผูก แต่เมื่อถูกนำมาสกัดเป็นยาชนิดเม็ด ก็เริ่มพบผู้ป่วยโรคตับอักเสบ ตัวเหลือง จนต้องยุติการขึ้นทะเบียนและการจำหน่ายยาสมุนไพรชนิดนี้
